กระทรวงศึกษาธิการของญี่ปุ่นเผยว่า สถิติการฆ่าตัวตายของเด็กในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มจำนวนสูงที่สุดในรอบสามทศวรรษที่ผ่านมา
ในช่วงปีงบประมาณ 2016-2017 จนถึงเดือนมีนาคมปีนี้ นักเรียนญี่ปุ่นในระดับประถมศึกษาจนถึงมัธยมฯ ปลาย ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองกว่า 250 คน นับว่าเป็นสถิติที่มากที่สุดในรอบ 30 ปี
ภายหลังการตรวจสอบพบว่า ประเด็นหลักที่ทำให้เด็กญี่ปุ่นตัดสินใจฆ่าตัวตายคือปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัว ความกังวลเกี่ยวกับอนาคต และการถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งโรงเรียนหลายแห่งกล่าวว่า เหตุผลการฆ่าตัวตายของเด็กกว่า 140 คน ไม่สามารถระบุได้เพราะผู้ตายไม่ได้เขียนบันทึกทิ้งไว้
เด็กส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมฯ ตอนปลาย ซึ่งตามเกณฑ์จะเรียนจบระดับนี้เมื่ออายุ 18 ปี
อ้างอิงจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกเผยว่า ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่อัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในโลกเมื่อปี 2015 ภายหลังรัฐบาลได้ออกมาตรการป้องกันปัญหานี้ อัตราจึงลดลง โดยปี 2017 ชาวญี่ปุ่นฆ่าตัวตายประมาณ 21,000 คน ลดลงจากจุดสูงสุดที่ประมาณ 34,500 คนในปี 2003
เจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่น โนริอากิ คิทาซากิ กล่าวว่า “ตัวเลขการฆ่าตัวตายของนักเรียนญี่ปุ่นอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจและควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน”
ที่มา: bbc