มีทฤษฎีสมคบคิดมากมายที่เคยตั้งคำถามกับสิ่งที่องการอวกาศอย่าง NASA เคยให้ข้อมูลกับมนุษยชาติ หนึ่งในนั้นคือความคลางแคลงใจในการไปเยือนดวงจันทร์ และประทับตรารอยเท้าแรกเอาไว้ในฐานะตัวแทนโลก
ก้าวย่างเเห่งมนุษยชาติเริ่มต้นขึ้นเมื่อนักบินอวกาศแห่งสหรัฐอเมริกา Neil Armstrong ได้เหยียบย่างไปบนดวงจันทร์ ในวันที่ 20 กรกฎาคม ปี 1969
ทว่าหลายคนก็ยังไม่ปักใจเชื่อ กับข้อมูลที่แพร่หลายไปทั่วโลก คนบางกลุ่มคิดว่านี่เป็นเพียงเรื่องที่อเมริกาจูงใจให้คนอื่นๆ เชื่อ ทั้งที่จริงแล้ว พวกเขาไม่เคยส่งมนุษย์ไปยังดวงจันทร์ด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุนี้ บางคนที่ไม่มั่นใจเกี่ยวกับข้อมูลที่เผยแพร่ต่อๆ กันมา จึงตัดสินใจที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริง
สิ่งหนึ่งที่พวกเขาสงสัย คือทำไม พื้นรองเท้ากับรอยเท้าจึงดูต่างกัน?
.
พวกเขาพบว่า Armstrong และนักบินคนอื่นๆ สวมชุด Apollo / Skylab A7L ขณะปฏิบัติการอยู่บนฟ้า
ซึ่งก่อนที่จะลงไปสำรวจดวงจันทร์ พวกเขาจะมีที่หุ้มรองเท้าเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงฝุ่นจากอวกาศ
พวกเขานำรองเท้ามาเอ็กซเรย์เพื่อหาวัตถุแปลกปลอมจากต่างดาวที่อาจติดมากับรองเท้า หลังจากปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์
พวกเขาพบว่าในภาพถ่ายที่บันทึกโดยช่างภาพคนอื่นๆ รอยเท้าในรูปไม่ใช่ของ Armstrong แต่เป็นของ Buzz Aldrin เพื่อนนักบินที่ร่วมเดินทางไปกับภารกิจอพอลโล 11 ด้วยนั่นเอง
NASA ได้เผยว่า รอยเท้าแรกของมนุษยชาตินั้น ยังคงปรากฎอยู่ที่เดิมบนพื้นผิวดวงจันทร์ และจะไม่มีวันหายไปไหน เพราะที่นั่นไม่มีลมที่จะพัดพามันให้หายไป
แม้จะมีคำอธิบายว่า เพราะเหตุใด รอยเท้ากับพื้นรองเท้าในภาพถ่ายจึงมีความแตกต่างกันมาก แต่ก็ยังไม่วายมีคนสงสัยว่า แล้วเจ้าที่หุ้มรองเท้านั้นล่ะ มันหายไปไหน? ทำไมถึงไม่อยู่ในชุดคอลเลคชั่นที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เหมือนอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ
ซึ่ง NASA ก็ให้ตอบคำถามนี้ว่า ก่อนที่คณะสำรวจจะเดินทางกลับโลก พวกเขาได้ทิ้งข้าวของไว้นับร้อยชิ้น เพื่อลดน้ำหนักให้ได้มากที่สุด ซึ่งของที่ว่านั้นก็มีตั้งแต่เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงที่หุ้มรองเท้านี้ด้วย
แม้ว่าจะมีคำอธิบายที่ตอบข้อสงสัยได้ แต่หลายคนก็ยังคงปักใจเชื่อว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องจริง ดังนั้น คุณอาจต้องใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารนะ :)
ที่มา: boredpanda