ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดินเอยไปจนถึงหมู่ดาวเต็มท้องฟ้าคืออีกหนึ่งความน่าประทับใจที่เหมาะแก่การเก็บบันทึกไว้บนรูปถ่าย น่าเสียดายที่เมื่อเเสงน้อยลง ความคมชัด และการถ่ายภาพก็ทำได้ยากขึ้น
แต่ไม่เป็นไร วันนี้เรามีทริคง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเก็บช่วงเวลาแสนพิเศษกลับมาได้ แม้จะไม่ได้อยู่ภายใต้แสงตะวันก็ตาม
1. ดูสีของท้องฟ้า
ยามเย็นหรือช่วงพลบค่ำ ท้องฟ้ามักมีเฉดสีที่สวยงามไล่เรียงกันมาเช่นเดียวกับช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น นั่นทำให้มันกลายเป็นช่วงเวลาพิเศษที่เหมาะแก่การถ่ายภาพ
ที่บอกให้ดูสีของท้องฟ้า เนื่องจากไม่สามารถกะเวลาที่แน่นอนในการแนะนำได้ เพราะในแต่ละช่วงเวลาของปี รวมถึงพื้นที่ที่คุณอยู่ในเวลานั้น อาจทำให้ความเร็วในการลับขอบฟ้าของดวงอาทิตย์ไม่เท่ากัน
2. ปิดแฟลช
กฎข้อแรกของการถ่ายภาพในเวลากลางคืนคือการปิดแฟลช เพราะแม้คุณจะคิดว่ามันจะช่วยเพิ่มแสงให้กับภาพถ่าย แต่บอกได้เลยว่า 9 ใน 10 ภาพมักออกมาไม่ค่อยสวยเสมอ
3. ทำความคุ้นเคยกับการตั้งค่ากล้องของคุณ
ถ้าคุณมีกล้อง DSLR คุณสามารถควบคุมการใช้แสงที่มีอยู่ได้โดยง่าย ด้วยการทำความคุ้นเคยกับ Aperture Priority, Shutter Priority หรือใช้โหมดปรับฟังก์ชันด้วยตัวเอง และที่สำคัญ คุณควรทำความคุ้นเคยกับการแก้ไข ISO ในการเซตค่ากล้องด้วย
4. คิดถึงวิธีที่คุณจะใช้กับแสงที่มีอยู่
มีหลายวิธีที่จะเล่นกับแสง เช่นการเปิดรูรับแสงนานๆ เพื่อให้ได้เส้นไฟที่สวยงาม หรือแม้แต่การเพิ่มความเร็วชัตเตอร์ เพื่อให้ได้แฉกไฟสวยๆ หรือคุณอาจเล่นกับเงาของตัวเองก็ได้เช่นกัน
5. ลงทุนซื้อขาตั้งกล้อง
สำหรับผู้ที่ต้งการถ่ายดวงดาว หรืออยากจะลองเปิดรูรับแสงนานๆ ขาตั้งกล้องคือหนึ่งในสิ่งที่จำเป็นมาก เนื่องจากมันจะช่วยลดการสั่นสะเทือน และช่วยให้ได้เส้นเเสงที่คมกริบ
6. เรียนรู้การใช้วัตถุอื่นๆ แทนขาตั้งกล้อง
หรือหากคุณยังไม่มีงบหรือความสนใจที่จะซื้อขาตั้งกล้อง ลองใช้วัตถุอื่นๆ เช่นเก้าอี้ หรือกล่อง มาวางไว้ในระยะที่พอดีกับที่คุณต้องการ และใช้มันแทนขาตั้งกล้องดูก็ได้ สิ่งสำคัญคือโฟกัส และเป้าหมายที่คุณต้องการถ่ายภาพ
7. ลองถ่ายภาพเส้นไฟ
วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้ลองทักษะใหม่ๆ รวมถึงรู้วิธีกะระยะที่พอดีในการตั้งค่าสิ่งต่างๆ แต่โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางสัญจรที่ขรุขระ เพราะการสั่นสะเทือนอาจทำให้ภาพของคุณออกมาไม่ดีเท่าที่ควร
8. เพิ่มสีสันในวันที่ฝนตก
เมื่อฝนตก ด้วยท้องฟ้าสีเทา และบรรยากาศรอบตัวที่ค่อนข้างสลัว ทำไมไม่ลองเพิ่มสีสันด้วยแสงไฟจากอะไรสักอย่างเพื่อให้ภาพของคุณดูมีลูกเล่นมากขึ้นล่ะ?
พื้นผิวคอนกรีตที่เปียกชื้นอาจกลายเป็นประกายและแสงไฟสะท้อนที่ทำให้ภาพของคุณมีมิติมากขึ้น แต่จงระวังอย่าให้กล้องของคุณเปียกเกินไป ควรมีสารกันชื้นติดกระเป๋ากล้องไว้ด้วยนะ
9. ลองหาที่มืดๆ เพื่อถ่ายทางช้างเผือกดูสิ
ใช้หลักการเดียวกับการถ่ายเส้นไฟ คือการเปิดรูรับแสงไว้ในชั่วขณะหนึ่ง อุปสรรคส่วนใหญ่คือตามเมืองใหญ่มักไม่มีที่ที่มืดพอจะถ่ายภาพดาว และคุณอาจต้องเรียนรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์บ้าง
ที่สำคัญ คุณต้องไม่เปิดรูรับแสงนานเกินกว่า 30 วินาที ไม่อย่างนั้นภาพสวยๆ จะเบลอซะได้
10. ลองถ่ายภาพแสงเหนือ
ไม่เหมือนการถ่ายภาพด้วยเวลาพลบค่ำ เพราะแสงเหนือจะมองเห็นได้เฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้นเทคนิคง่ายๆ ก็คือการหมุน ISO ให้สูงขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้ เปิดรูรับแสงให้กว้างที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ (แม้ว่าจะรูรับแสงที่ต่ำสุดจะเท่ากับ f / 2.8 ก็ยังทำงานได้ดี) และตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ระหว่าง 3-15 วินาที ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวที่มีอยู่รอบๆ แสงเหนือนั้น
บ่อยครั้ง สิ่งที่ภาพถ่ายมักไม่เหมือนกับที่ตาเห็น แต่นั่นไม่แปลก เพราะคุณกำลังจับความเข้มของแสง ซึ่งจะทำให้ภาพของคุณดูเป็นสีเขียว
ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ลองใช้เทคนิคเหล่านี้ออกไปถ่ายรูปให้สนุก เพื่อซักซ้อมเตรียมพร้อมสำหรับทริปต่อไปกันดีกว่า
ที่มา : roughguides