การเริ่มต้นชีวิตในมหาวิทยาลัยนั้นอาจเป็นหนึ่งในความท้าทายครั้งใหญ่ของเด็กหลายคน เนื่องจากพวกเขาจะต้องออกไปใช้ชีวิตเพียงลำพัง ท่ามกลางเพื่อนใหม่ และการเป็น “เด็กหอ” หมายถึงการต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนแปลกหน้าที่พวกเขาไม่คุ้นเคย
“รูมเมท” คือหนึ่งในปัญหาที่เด็กหอส่วนใหญ่เคยเผชิญ ใครเเต้มบุญสูงเจอเพื่อนที่ดีก็ถือว่าโชคดีไม่มีอะไรให้ต้องกังวลใจ แต่โดยมากเมื่อคนที่มีไลฟ์สไตล์ต่างกันมาอยู่ด้วยกัน มักทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันได้ง่ายๆ
และนี่คือหนึ่งในข้อดี – ข้อเสีย ที่ถูกรวบรวมมาจากบรรดาเด็กหอ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถชั่งใจได้ว่า การเช่าหออยู่คนเดียว หรือ การหารูมเมทมาอยู่ด้วย อย่างไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน?
ข้อดีของการมีรูมเมท
1. ช่วยให้คุณประหยัดเงินค่าเช่าห้องได้เยอะ
การมีรูมเมทนับเป็นทางออกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด หรือต้องการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งนอกจากค่าห้องแล้ว พวกคุณยังสามารถช่วยกันแชร์ข้าวของอย่างอื่น เช่น ของใช้ในห้อง หรือค่าซ่อมแซมอื่นๆ ได้
2. คุณจะไม่มีทางเหงา
หารมีรูมเมทจะทำให้คุณมีเพื่อนที่คอยอยู่ด้วยในช่วงเวลาางๆ และอาจมีกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้ในทุกๆ วัน เช่น การทำอาหาร หรือดูหนังรอบดึก ซึ่งจะช่วยให้คุณลืมความคิดถึงบ้านและหายเหงาไปได้มากเลยทีเดียว
3. คุณมีคนช่วยทำงานบ้าน
การมีเพื่อนช่วยทำงานบ้านโดยเเบ่งหน้าที่กันอย่างแฟร์ๆ ถือเป็นอะไรที่ดีงามมาก นั่นเพราะคุณจะไม่ต้องเหนื่อยจัดการห้องคนเดียวทั้งหมด หลังจากที่เรียนมาอย่างหนักแล้ว
4. เป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม
การใช้ชีวิตกับใครสักคนจะทำให้คุณได้เรียนรู้ทั้งการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น และได้รู้จักตัวเองมากยิ่งขึ้น ในอนาคตเมื่อคุณพบใครสักคนที่อยากจะอยู่ร่วมกับเขาไปทั้งชีวิต ประสบการณ์เหล่านี้อาจทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
ข้อเสียของการมีรูมเมท
1. รบกวนการเรียน
สำหรับบางคนที่มีเพื่อนร่วมห้องเป็นคนที่ไลฟ์สไตล์ต่างกันสุดขั้ว อาจทำให้บางกิจกรรมของเพื่อนรบกวนคุณได้ เช่น หากคุณต้องการอ่านหนังสือเงียบๆ แต่เพื่อนคุณจัดปาร์ตี้ในห้อง บางทีอาจอยู่คนเดียวอาจดีกว่า
2. ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เข้ากันอาจทำให้เกิดปัญหา
อย่างที่เคยบอกไปว่าการอยู่ร่วมกับคนแปลกหน้าคือเรื่องของการปรับตัว ซึ่งหากคุณและรูมเมทมีนิสัยที่ต่างกันสุดขั้วแล้วล่ะก็ นั่นอาจทำให้พวกคุณเกลียดกันไปเลยก็ได้นะ
*หมายเหตุ : แนะนำให้ลองเช็คดูก่อนว่าหากมีการแบ่งหน้าที่ทำความสะอาด หรือการแบ่งกันจ่ายค่าใช้จ่ายในห้อง เขา/เธอ มีแนวโน้มที่จะไม่ทำหรือไม่ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นนอกจากจะเป็นการเอาเปรียบคุณแล้ว อาจทำให้คุณเสียความรู้สึกในภายหลังอีกต่างหาก
3. คุณจะไม่มีพื้นที่ส่วนตัวมากเท่าไหร่
เมื่อตัดสินใจมีรูมเมท หมายถึงทุกพื้นที่ในห้องคือการแชร์ร่วมกัน นั่นทำให้คุณไม่สามารถจัดสรรสิ่งต่างๆ ได้อย่างใจ หากเพื่อนของคุณไม่เห็นด้วย
4. ตารางเวลาของคุณและเพื่อนอาจเข้ากันไม่ได้
หากตารางการใช้ชีวิตของทั้งสองคนสวนทางกัน เช่น คุณนอนในตอนกลางคืน แต่เพื่อนนอนในตอนกลางวัน การทำกิจกรรมในห้องอาจเป็นการรบกวนซึ่งกันและกันได้ สำหรับบางคนนี่อาจเป็นเรื่องเล็ก แต่หลายคนก็ยืนยันว่ามันเป็นเรื่องใหญ่เหมือนกันนะ
อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์การใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น หลายคนนับว่าเป็นสิ่งล้ำค่าและได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากมาย และสำหรับบางคน “รูมเมท” อาจทำให้พวกเขาได้ค้นพบบางสิ่งในตัวเองอย่างที่ไม่เคยรู้ ซึ่งเอาจริงๆ มันก็ไม่ได้แย่ไปซะทั้งหมด อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนนะ :)
ที่มา: bachelorstudies