ปัจจุบันโลกของเราเชื่อมต่อกันผ่านทางอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี มีหลายสถาบันทางการศึกษาที่ถือกำเนิดขึ้นรวมถึงพัฒนาให้ขอบข่ายการเรียนรู้กว้างไกลขึ้น ดังนั้นในแต่ละปีจึงมีการจัดอันดับคุณภาพของสถาบันเหล่านั้นในระดับโลก
QS Quacquarelli Symonds คือสถาบันคลังสมองชั้นนำในแวดวงการศึกษาระดับโลก พวกเขาได้ทำการจัดเก็บข้อมูลประจำปี และจะเผยรายชื่อของมหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีความเป็นเลิศด้านการผลิตบัณฑิตให้พร้อมทำงาน
เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยและความสามารถในการทำงานของบัณฑิต QS ได้ทำการประเมินสถาบันแต่ละแห่งโดยใช้เกณฑ์วัด 5 เงื่อนไขใการเก็บข้อมูล รวมถึงการสำรวจความคิดเห็นของนายจ้างราว 44,000 รายทั่วโลก ศึกษาข้อมูลสถาบันศึกษาของบุคคลที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีราว 29,000 ราย ตลอดจนความร่วมมือในอุตสาหกรรมของสถาบัน การปรากฏตัวของนายจ้างที่สถาบัน และอัตราการจ้างงานของบัณฑิตเมื่อปรับตามสถานที่แล้ว
นี่คือรายชื่อ 15 อันดับแรกของผลการจัดลำดับ 2020 QS Graduate Employability Rankings
อันดับที่ 15 : มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 14 : มหาวิทยาลัยชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 13 : มหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 12 : มหาวิทยาลัยคอร์เนล ประเทศสหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 11 : มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU)ประเทศสหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 10 : มหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด สหราชอารณาจักร
อันดับที่ 9 : มหาวิทยาลัยฮ่องกง ประเทศฮ่องกง
อันดับที่ 8 : มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร
อันดับที่ 7 : มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
อันดับที่ 6 : มหาวิทยาลัย Tsinghua ประเทศจีน (แผ่นดินใหญ่)
อันดับที่ 5 : มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 4 : มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
อันดับที่ 3 : มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียลอสแองเจลิส (UCLA) ประเทศสหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 2 : มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา
อันดับที่ 1 : สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในภาพรวมจะเห็นได้ว่ามีหลายสถาบันทางการศึกษาในเอเชียทำคะแนนได้ดีกว่าสถาบันทางยุโรป ทั้งนี้อาจเป็นผลมาจากความก้าวหน้าและการพัฒนาระบบการศึกษา
นอกไปจากนี้ ผลการจัดอันดับยังแสดงให้เห็นด้วยว่าชื่อเสียงและความโดดเด่นด้านการวิจัยของแต่ละสถาบันไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันความสามารถในการทำงานของบัณฑิตเสมอไป
2020 QS Graduate Employability Rankings เรียกได้ว่าเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ มีความเป็นกลาง และมีการวิเคราะห์หลายตัวแปรทั้งในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างการเลือกมหาวิทยาลัยกับความก้าวหน้าทางอาชีพ ส่งผลให้การจัดอันดับนี้ตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของนักศึกษาที่กำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์ในเรื่องการจ้างงานที่อาจมาพร้อมกับการศึกษาของตน
ที่มา: topuniversities