ในบทความล่าสุดของนิตยสาร Teen Vogue มีหัวข้อที่น่าสนใจซึ่งกล่าวโดย Adam Conover ว่า “นักวิจัยค้นพบว่า นาฬิกาชีวิตของคนเรามักเปลี่ยนไปเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น วัยรุ่นอาจต้องการเวลานอนที่มากกว่าผู้ใหญ่ (อย่างน้อยก็ต้องการการนอนถึง 9 ชั่วโมง หรืออาจมากกว่านั้น) นั่นทำให้พวกเขาสามารถนอนต่อได้หลังจากตื่น และอาจตื่นขึ้นมาอีกทีในเช้าของอีกวัน”
ปัญหาก็คือ วัยรุ่นส่วนใหญ่มักประสบกับโรคนอนไม่พอ แม้ว่าพวกเขาจะเข้านอนในเวลาที่เหมาะสม สาเหตุก็เพราะ โรงเรียนเริ่มเร็วเกินไป
Conover กล่าวว่า “ผลกระทบที่ได้จากการนอนไม่พอในวัยรุ่นนั้น ทำให้พวกเขาไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งการความง่วงในขณะที่ขับขี่ก็เป็นปัญหาร้ายแรงเช่นกัน”
National Sleep Foundation สนับสนุนการยืนยันของ Conover ว่า วัยรุ่นส่วนใหญ่ต้องการเวลานอนระหว่าง 8 – 10 ชั่วโมงต่อคืน แต่น้อยคนนักที่จะได้รับการพักผ่อนที่เหมาะสมนี้
จากการศึกษาของ National Sleep Foundation พบว่ามีเพียงประมาณร้อยละ 15 ของวัยรุ่นที่ได้รับการนอนหลับอย่างเต็มที่ ประมาณ 8.5 ชั่วโมงต่อคืน
อาจด้วยเพราะสาเหตุนี้ ทำให้วัยรุ่นมีปัญหาอื่นๆ ที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็น การกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ภาวะซึมเศร้า ความง่วงในขณะขับขี่ หรือแม้แต่ความสนใจที่มีต่อสิ่งรอบตัวที่น้อยลง
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) และ American Academy of Pediatrics (AAP) ให้คำแนะนำเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้ว่า โรงเรียนควรเริ่มอย่างเช้าที่สุดคือ 8:30 น. เพื่อให้เยาวชนมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ
แต่ทว่า ข้อเสนอแนะนี้ถูกโต้แย้งด้วยเหตุผลอื่นๆ เช่น นักกีฬาของโรงเรียนหลายคนออกจากโรงเรียนก่อนกำหนดเพื่อเล่นฝึกซ้อมกีฬา ด้วยเหตุนั้น หากเริ่มเรียนช้า อาจทำให้พวกเขามีเวลาเรียนที่ไม่เพียงพอ หลายคนแนะนำให้วัยรุ่นเข้านอนให้เร็วขึ้น แทนที่จะเริ่มเวลาเรียนให้ช้าลง
ข้อโต้แย้งนี้อาจยังไม่ได้รับข้อสรุปอย่างแน่ชัด แต่ก็ได้กลายเป็นหัวข้อที่น่าสนใจ…แล้วคุณล่ะ คิดเห็นในเรื่องนี้อย่างไร?
ที่มา: academiccourses