สถานศึกษาเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเด็กๆ ที่สร้างสังคมให้พวกเขา เพิ่มพูนความรู้ มอบประสบการณ์บางอย่างที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว นักเรียนบางคนจึงรักสังคมในโรงเรียนมากเพราะเต็มไปด้วยเพื่อนที่เข้าใจ รายล้อมด้วยความสนุกสนาน ต่างกับบ้านที่มีกลิ่นไอความเครียดลอยคลุ้งอยู่หน่อยๆ
ซึ่งโรงเรียนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกย่อมมีความแตกต่างกัน ทั้งระเบียบข้อบังคับ การแต่งกาย ชั่วโมงการเข้าเรียน หรือแม้กระทั่งวิชาที่สอนที่ไม่เหมือนกันเลย วันนี้เราจะพาไปดูว่าโรงเรียนจาก 10 ประเทศเหล่านี้มีวิชาเรียนอะไรบ้าง
1. สหรัฐอเมริกา
– วิชาบังคับในโรงเรียนประถมศึกษาคือวิชาคณิตศาสตร์ การอ่านและการเขียน วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
– วิชาในระดับมัธยมศึกษา ได้แก่ คณิตศาสตร์ ภาษาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (รวมทั้งเคมี ชีวะ และฟิสิกส์) สังคมศาสตร์ (ประวัติศาสตร์) และพลศึกษา นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษมากมาย เช่น จิตวิทยา นิติวิทยาศาสตร์ การสื่อสารมวลชน วาทศาสตร์ การแกะสลักไม้ เครื่องปั้นดินเผา การทำอาหาร เป็นต้น
– วิชาบังคับในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายคือคณิตศาสตร์ วรรณคดี วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ สังคมศาสตร์ (ประวัติศาสตร์และโครงสร้างของรัฐ) พลศึกษา
2. อิสราเอล
– หลักสูตรของโรงเรียนประถมศึกษาประกอบด้วยภาษาฮีบรู คณิตศาสตร์ คัมภีร์ฮีบรู ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ธรรมชาติศึกษา ภาษาอังกฤษ ดนตรี การวาดภาพ และพลศึกษา มีวิชาเลือกที่ครูเป็นผู้เลือกให้ เช่น หุ่นยนต์ เทคนิคและละครสัตว์ การละคร การออกแบบท่าเต้น และการศึกษาด้านสัตวแพทย์
– ในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย นักเรียนเลือกทิศทางการศึกษาด้วยตัวเอง สามารถเรียนภาษาต่างประเทศ วิชาเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา ดนตรี เทคโนโลยีชีวภาพ การออกแบบ การละคร อาชญาวิทยา จิตวิทยา เศรษฐศาสตร์ การผลิตไวน์ ฯลฯ
3. ญี่ปุ่น
– ในโรงเรียนประถม การเรียนภาษาญี่ปุ่นมีทั้งแบบสมัยใหม่ ภาษาญี่ปุ่นแบบยุคกลาง และแบบโบราณ การประดิษฐ์ตัวอักษร กวีนิพนธ์ คณิตศาสตร์ ธรรมชาติศึกษา สังคมศึกษา วิชาดนตรี ทัศนศิลป์ พลศึกษา และการเรียนเกี่ยวกับครัวเรือน
– ในระดับมัธยมตอนต้น มีเรียนวิชาอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น IT ธรรมชาติศึกษา (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ และธรณีวิทยา) พื้นฐานความปลอดภัยในชีวิต ประวัติศาสตร์ ภาษาอังกฤษ (กับเจ้าของภาษา) และวิชาเลือกอีกมากมาย
– ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย นอกเหนือจากวิชาก่อนหน้าที่กล่าวมา พวกเขายังมีเรียนอีก 2 วิชาเฉพาะ ได้แก่ มนุษยศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ
4. ซาอุดีอาระเบีย
วิชาบังคับของที่นี่จะรวมการเรียนเกี่ยวกับศาสนา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (ชีววิทยา และฟิสิกส์) แต่การเรียนเกี่ยวกับมนุษยศาสตร์ เช่น ประวัติศาสตร์ หรือสังคมศาสตร์แทบจะไม่มีสอนอยู่ในโรงเรียนเอกชน
5. ไอร์แลนด์
-วิชาบังคับมี 2 วิชา คือ ภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ (บางโรงเรียนมีวิชาบังคับอีก 3 วิชาคือภาษาไอริช)
-ส่วนที่เหลือคือวิชาเลือก นักเรียนจะสอบในวิชาที่พวกเขาวางแผนไว้แล้ว ซึ่งทางเลือกค่อนข้างกว้างมีประมาณ 34 วิชา ตัวอย่างเช่น การบัญชี องค์กรธุรกิจ การจัดการ วิชาดนตรี การวาดภาพ เกี่ยวกับครัวเรือน ด้าน IT งานไม้ ภาษาต่างประเทศ การเกษตร การละคร ดนตรี และอื่นๆ อีกมาก
6. ออสเตรเลีย
-ในโรงเรียนประถมนอกเหนือจากวิชาพื้นฐานอย่างคณิตศาสตร์ ภาษาแม่ พลศึกษา สิ่งแวดล้อม และบทเรียนที่สร้างสรรค์แล้ว เด็กๆ ที่นี่จะได้เรียนเกี่ยวกับการพูดในที่สาธารณะ
-ในม.ต้น วิชาบังคับคือภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ทฤษฎีความน่าจะเป็น ความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ สังคมศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ นิเวศวิทยา ศิลปศาสตร์ การฝึกร่างกาย และวิทยาศาสตร์ (รวมทั้งเคมี ฟิสิกส์ และดาราศาสตร์)
-ในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย เช่น ด้านบัญชี ไอที เศรษฐศาสตร์ ฯลฯ ซึ่งเป็นทางเลือกที่หลากหลาย นอกจากนี้ ผู้ที่เรียนอยู่ในเกรด 11 – 12 จะได้รับการฝึกงานในบริษัท และมีโอกาสได้เข้าทำงาน
7. สเปน
-โรงเรียนประถม เช่น ภาษาสเปน วรรณคดี ธรรมชาติศึกษา พลศึกษา คณิตศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ และศิลปศาสตร์
-ในม.ต้น จะได้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสังคมศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ กราฟิก ดนตรีและเทคโนโลยี
8. จีน
– วิชาบังคับในโรงเรียนประถมศึกษาคือวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาจีน ภาษาต่างประเทศ การวาดภาพ ดนตรี พลศึกษา
-ในระดับม.ต้นและม.ปลาย มีการศึกษาเพิ่มเติม (ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา) สังคมศาสตร์ ทักษะคอมพิวเตอร์ และวิทยาการคอมพิวเตอร์ ซึ่งระดับของความซับซ้อนและจำนวนวิชาพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปีทำให้โรงเรียนในประเทศจีนเป็นหนึ่งในระบบการศึกษาที่ค่อนข้างยากและกดดันที่สุด
9. บริเตนใหญ่
-ในโรงเรียนประถม จะเรียนเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ดนตรี เทคโนโลยีอุตสาหกรรม และศิลปศาศตร์
-จากนั้นก็จะได้รับการศึกษาเพิ่มเติม เช่น ศาสนา (ศึกษาด้านจริยธรรม และมุมมองของทุกศาสนา) ภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และวิชาต่างๆ ที่นักเรียนเลือก เช่น การทำอาหาร ดนตรี จิตวิทยา การถ่ายภาพ การเต้นรำ การละคร กฎหมาย การบัญชี ศิลปะ และการออกแบบ วิทยาศาสตร์ทางทะเล การท่องเที่ยว เป็นต้น
10. รัสเซีย
-ที่โรงเรียนประถม เด็กๆ จะเรียนคณิตศาสตร์ ธรรมชาติศึกษา ภาษารัสเซีย การอ่านภาษาต่างประเทศ การวาดภาพ ดนตรี พลศึกษา และหมากรุก (วิชาเลือกที่ปรากฏในหลายโรงเรียนตั้งแต่ปี 2018)
-หลักสูตรของม.ต้น เช่น ภาษาและวรรณคดีรัสเซีย ภาษาต่างประเทศ พีชคณิต เรขาคณิต สารสนเทศ ประวัติศาตร์ สังคมศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติวิทยา ชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี พลศึกษา และงานฝีมือ
-ม.ปลายเรียนการเขียนแบบ ดาราศาสตร์ ในหลายๆ โรงเรียนของชั้นปีที่ 10 และ 11 มีแบ่งเป็น 4 วิชาเฉพาะ
จะว่าไปวิชาของแต่ละโรงเรียนก็มีความเฉพาะ และน่าเรียนเหมือนกันนะเนี่ย
ที่มา: brightside