เมื่อคว้าประกาศนียบัตรระดับมัธยมปลายมาครองได้แล้ว ด่านต่อไปก็คือการแอดมิดชั่นเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ซึ่งครั้งนี้นักเรียนจะพบว่าตัวเองมีตัวเลือกที่ค่อนข้างหลากหลาย เพราะสถาบันอุดมศึกษามีเยอะแยะมากมายทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับผู้ที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ อาจเคยงุนงงกับคำว่าวิทยาลัย (College) และมหาวิทยาลัย (University) อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสองคำนี้มันมีความแตกต่างกันอยู่ รวมทั้งความหมายในแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกันด้วย
ตัวอย่างมหาวิทยาลัยยอดนิยมในสหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักร
– University of the Pacific สหรัฐอเมริกา
– Hult International Business School สหรัฐอเมริกา
– Southern New Hampshire University สหรัฐอเมริกา
– University of Leeds สหราชอาณาจักร
– Newcastle University สหราชอาณาจักร
– INTO University of East Anglia สหราชอาณาจักร
วิทยาลัยคืออะไร?
โดยทั่วไปวิทยาลัยเป็นสถาบันการศึกษาขนาดเล็กเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัย เปิดสอนในระดับปริญญาตรี อนุปริญญาหรือประกาศนียบัตร จำนวนหลักสูตรมีให้เลือกค่อนข้างจำกัด และใช้เวลาเรียนประมาณ 2-4 ปี
ซึ่งแม้จะเรียนต่อปริญญาในวิทยาลัย แต่นักศึกษาก็สามารถใช้วุฒินี้สมัครเรียนต่อในระดับบัณฑิตศึกษาที่มหาวิทยาลัยในภายหลังได้
วิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา:
ในสหรัฐอเมริกามีวิทยาลัย 3 ประเภท:
– วิทยาลัยชุมชน
– วิทยาลัยวิชาชีพ / อาชีวศึกษา
– วิทยาลัยศิลปศาสตร์
วิทยาลัยในสหราชอาณาจักร:
วิทยาลัยในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาทั้งสองแห่งมีโรงเรียนอาชีวศึกษาเหมือนกัน แต่สำหรับวิทยาลัยชุมชนและวิทยาลัยศิลปศาสตร์มีเฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น ส่วนระยะเวลาในการเรียนที่สหราชอาณาจักรใช้เวลา 1-2 ปี
มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักร
มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับวิทยาลัย เปิดสอนทั้งหลักสูตรระดับปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรี นอกจากนี้ ยังมีสาขาวิชาให้เลือกหลากหลาย รวมถึงศูนย์วิจัยและศูนย์กีฬาสำหรับนักศึกษา
อีกทั้งจำนวนนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นมีอัตราสูงกว่านักศึกษาในวิทยาลัย และนักเรียนต่างชาติที่ต้องการเรียนต่อระดับอุดมศึกษาในต่างประเทศก็มักจะเลือกมหาวิทยาลัยมากกว่าวิทยาลัย
การใช้คำว่า College และ University ของชาวอเมริกัน และชาวอังกฤษ
ในสหรัฐอเมริกาคำว่า ‘โรงเรียน’ ‘วิทยาลัย’ และ ‘มหาวิทยาลัย’ จะถูกนำมาใช้เมื่อพูดถึงสถาบันการศึกษาระดับสูง ซึ่งในบรรดาสามคำนี้ ‘วิทยาลัย’ เป็นคำที่ใช้บ่อยที่สุด ตรงกันข้ามกับชาว UK ที่จะใช้คำว่า University มากกว่า
สรุป:
– มหาวิทยาลัยเป็นที่นิยมมากในหมู่นักศึกษาต่างชาติ เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวก และให้การซัพพอร์ทที่ดีกว่า อีกทั้งยังมีหลักสูตรให้เลือกหลากหลาย
– หากคุณต้องการศึกษาระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอก คุณจะต้องลงทะเบียนในมหาวิทยาลัย
– มหาวิทยาลัยบางแห่งเรียกตัวเองว่าเป็นวิทยาลัยด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์หรือประเพณีวัฒนธรรม
– ชาวอเมริกันเรียกทุกอย่างว่า ‘วิทยาลัย’
ใครที่กำลังวางแผนเรียนต่อต่างประเทศคงได้คำตอบแล้วสินะว่าจะไปเรียนวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยดี
ที่มา: mastersportal