เคยพบคำที่ดูเหมือนกันในภาษาอังกฤษ แต่ทั้งที่จริงแล้วมันมีความหมายและหน้าที่ต่างกันหรือไม่? โดยเฉพาะเมื่อต้องสร้างประโยคขึ้นมา หลายครั้งหลายคนอาจสับสนและสงสัยว่าต้องเลือกใช้คำไหนดี?
เช่นเดียวกันกับคำว่า ‘everything’ และ ‘anything’ ทั้งสองคำนี้เป็นคำสรรพนามที่ถูกใช้เพื่ออ้างถึงบางสิ่ง มันมีความคล้ายคลึงกันอย่างมากทั้งด้านการสะกดและการออกเสียง แต่มันกลับเป็นคำที่แตกต่างกันทั้งด้านความหมายและการใช้งาน มาดูรายละเอียดของแต่ละคำให้มากขึ้นกว่านี้กัน :)
#EVERYTHING
หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่าง วัตถุทั้งหมดไม่ว่าจะมองเห็นหรือมองไม่เห็นก็เป็นส่วนหนึ่งของคำนี้ หรือแม้แต่การไม่มีอะไรเลย (nothing) ก็เป็นส่วนหนึ่งของ ‘everything’ เช่นกัน
นั่นคือการใช้คำว่า ‘everything’ นั้นไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีข้อกำหนด ไม่มีลิมิต มันคือทุกสิ่งอย่างในทุกสถานการณ์ที่จะเป็นไปได้
#ANYTHING
ในขณะที่ ‘anything’ คือ ‘สิ่งใดก็ตาม’ มันถูกใช้เพื่ออ้างถึงสิ่งใดๆ ก็ตามเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ เป็นเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งของสิ่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ หรือไอเดียก็ตาม
โดยมันอาจเป็นเพียงแค่อย่างเดียวหรือเพียงบางส่วนของปริมาณ ขอบเขต หรือสิ่งของอะไรก็ได้
จะเห็นได้ว่าทั้ง ‘everything’ และ ‘anything’ ไม่สามารถนำมาใช้สลับกันได้ เพราะมันจะให้ความหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างดังนี้
ตัวอย่างที่ถูก: I don’t need anything because I already have
everything. (ฉันไม่ต้องการสิ่งใดเลยเพราะฉันมีทั้งหมดแล้ว)
ตัวอย่างที่ผิด: I don’t need everything because I already have
anything. (ฉันไม่ต้องการทั้งหมดเลย เพราะฉันมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว)
#สรุป
1. ‘everything’ ใช้เพื่ออ้างถึงทุกสิ่งที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย สิ่งที่เป็นนามธรรมทุกอย่าง ในขณะที่ ‘anything’ ใช้เพื่ออ้างถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งของสิ่งของ รูปธรรม หรือไอเดีย
2. ‘everything’ ใช้อ้างถึงกับทุกสิ่ง ในขณะที่ ‘anything’ จะใช้เพื่ออ้างถึงสิ่งที่กำลังพูดถึงอยู่ขณะนั้น
และนี่คือความแตกต่างของคำว่า ‘everything’ ที่แปลว่า ‘ทุกอย่าง’ และ ‘anything’ ที่หมายถึง ‘บางสิ่งบางอย่าง’ เป็นคำที่ดูเหมือนจะง่ายแต่ก็ซับซ้อนไม่เบา ทั้งนี้ถ้าจำเอกลักษณ์ของแต่ละคำได้ก็ช่วยได้เยอะแน่นอน ^^’
ที่มา: differencebetween