อย่างที่ทราบกันดีว่า Tense ในภาษาอังกฤษคือการบอกเวลา ซึ่งมีทั้งหมด 12 Tenses ซึ่งในแต่ละ Tense ก็จะมีรูปแบบการใช้ที่แตกต่างกันออกไป เช่น การบอกเวลาในอดีต (Past) ปัจจุบันกำลังทำอะไร (Present) และในอนาคตมีแพลนจะทำอะไร (Future) เป็นต้น
ทั้งนี้ในบาง Tense ก็มีความซับซ้อนและน่าสับสนในการใช้เช่นกัน โดยเฉพาะระหว่าง Past Simple vs. Present Perfect วันนี้เราจึงจะนำเสนอให้เห็นความแตกต่างในการใช้ทั้ง 2 Tenses นี้กัน : )
Past Simple คืออะไร? ถูกใช้เมื่อไหร่?
คือ Tense ที่ถูกใช้เพื่ออธิบายถึงการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต อีกทั้ง Tense นี้จะกล่างถึงรายละเอียดของการกระทำหรือเหตุการณ์ที่แน่นอน มีความเฉพาะเจาะจง และเหตุการณ์ดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบ S. + V.2 เช่น
– I wrote a few lines of the story in my notebook last week.
– He went on an exchange program two years ago.
นอกจากนี้มันจะถูกใช้เมื่อต้องการโฟกัสว่าการกระทำอะไรกำลังเกิดขึ้น เช่น
– We danced a lot at the party.
– I walked home from school.
ตัวอย่างทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต และไม่เกี่ยวกับผลลัพธ์หรือผลที่ตามมาของการกระทำ ไม่มีการพูดถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ
Present Perfect คืออะไร? ถูกใช้เมื่อไหร่?
Tense นี้จะถูกใช้ในรูปแบบ S.+Has / Have +Past Participle เพื่อพูดถึงเรื่องราวในปัจจุบันที่เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้ว อาจเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องหรือเกิดขึ้นไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้และไม่มีเวลาระบุที่แน่นอน
กล่าวคือมันเป็นเหตุการณ์ในปัจจุบันที่พึ่งเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้และยังมีความเชื่อมโยงกับในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น
– He has been on an exchange program to Sweden. (ไม่ได้ระบุเวลา แต่ขณะนี้เขาก็ยังเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่)
– She has eaten the pie all by herself. (แสดงถึงผลของการกระทำที่พายถูกกินแล้วโดยเธอ)
ความแตกต่างของทั้ง 2 Tenses
– Past Simple และ Present Perfect แสดงถึงเวลาที่แตกต่างกัน Past Simple คือเรื่องราวในอดีต แต่ Present Perfect คือเวลาในปัจจุบัน
– Past Simple จะถูกใช้เพื่ออ้างถึงเหตุการณ์ / การกระทำที่เสร็จสิ้นแล้วหรือเกิดขึ้นแล้วในอดีต พร้อมเวลาที่มักจะระบุแน่นอนว่าเสร็จเมื่อไหร่
– Past Simple จะถูกใช้ในแง่ของการบอกเล่าการกระทำ ไม่ได้บอกผลลัพธ์ของการกระทำ
– Present Perfect จะถูกใช้เพื่แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ / การกระทำที่พึ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ หรือไม่มีเวลาระบุ
– Present Perfect จะถูกใช้เพื่อแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ของการกระทำ / เหตุการณ์ ที่เชื่อมโยงกับปัจจุบัน
– นอกจากนี้ Past Simple จะใช้คำกริยาแบบเดียว นั่นคือกริยาในอดีตหรือ V.2 ในขณะที่ Present Perfect จะใช้คำกริยาแบบ Has / Have + Participle form of the verb
– วิธีที่ง่ายที่สุดในการจำคือ เหตุการณ์ของ Past Simple นั้น ‘สิ้นสุด’ ลงแล้ว ในขณะที่เหตุการณ์ของ Present Perfect ยังมีความ ‘เชื่อมโยง’ กับปัจจุบันหลงเหลืออยู่
อาจจะดูน่าสับสนสักเล็กน้อยแต่ทั้ง 2 Tenses นั้นก็มีความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนอยู่ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนแล้วล่ะ ภาษาอังกฤษไม่ได้ยากอย่างที่คิด!
ที่มา: fluentu