สำหรับการทดสอบ TOEFL หลายๆ คนก็คงพอทราบว่ามีถึง 3 แบบคือ iBT , CBT และ PBT ซึ่งวันนี้เราก็จะมาบอกความแตกต่างของทั้ง 3 ตัวนี้กัน
TOEFL iBT ข้อสอบดังกล่าวเป็นข้อสอบที่มีการบันทึกผลของการทำสอบผ่านทาง Internet และนี้ก็คือเจ้า “i” ตัวเล็กนั้นเองก็ย่อมาจากคำว่า Internet ข้อสอบชุดดังกล่าวเปลี่ยนแปลงจากข้อสอบชุดเดิมค่อนข้างมากโดยมีการเพิ่มทักษะการพูด และข้อสอบในลักษณะที่เป็น integrated tasks หรือข้อสอบที่ผู้ทำสอบต้องใช้ทักษะหลายอย่างผสมกันเช่น ฟัง+อ่าน+เขียน หรือ ฟัง+พูด
TOEFL CBT เป็นข้อสอบที่มีอายุการใช้งานที่สั้นที่สุดของ โดยมีการนำ technology “adaptive” จากข้อสอบ GMAT มาใช้รวมด้วย ข้อสอบ adaptive นั้นจะปรับตัวไปตามผู้ที่เข้าสอบหากผู้ทำสอบทำได้ถูกต้อง ข้อสอบที่ได้ก็จะยากขึ้นตามลำดับ หากแต่โอกาสที่จะได้คะแนนสูงก็มีมากตามไปด้วยเพราะทุกข้อไม่ได้มีคะแนนเท่ากัน หากตอบถูกในข้อยากจะได้คะแนนสูงกว่าข้อง่าย และนอกจากนี้เป็นยุคที่ผู้สอบทุกคนต้องสอบการเขียนหมด โดยไม่สามารถเลี่ยงที่จะไม่สอบได้ ผู้ทำสอบสามารถพิมพ์คำตอบลงในคอมพิวเตอร์หรือเลือกที่จะเขียนในกระดาษได้ ซึ่งจะแตกต่างจาก TOEFL iBT ที่ผู้สอบทุกคนต้องพิมพ์ลงคอมพิวเตอร์เท่านั้น
TOEFL PBT ข้อสอบแบบ Paper เป็นข้อสอบชุดมาตราฐานที่สร้างชื่อให้กับ TOEFL ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ การฟัง, grammar, และ การอ่าน หากผู้สอบต้องการสอบการเขียนจะมีข้อสอบแยกที่เรียกว่า TWE หรือ ต้องการสอบการพูดจะต้องสอบ TSE เพิ่มเติม จะความสำเร็จของข้อสอบชุดดังกล่าวทำให้เราคุ้นเคยกับคะแนน 550 นั่นเอง และถ้าจะพูดถึงคะแนนข้อสอบชนิดน้ก็คงต้องเป็ตัวเลขของแบบเปเปอร์แหละ อิอิ
ตารางเปรียบเทียบคะแนนแต่ละแบบ คะแนนต่อคะแนน
.
.
ตารางเปรียบเทียบช่วงคะแนน
ที่มา: EnlishThailand, myfirstbrain