ปัญหาความเครียดสะสมในหมู่นักเรียนโดยเฉพาะในกลุ่มอุดมศึกษากำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ลุกลามไปทั่วโลก และนำไปสู่การฆ่าตัวตายที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยสหราชอาณาจักร Sam Gyimah ได้เรียกร้องให้มีการจัดลำดับความสำคัญด้านสุขภาพจิตของนักศึกษา ควบคู่ไปกับการศึกษาด้านวิชาการ
ขณะนี้ มีการเปิดเผยข้อมูลว่า กลุ่มมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร (UUK) ได้ร่วมมือกับกลุ่มเยาวชนปาปิรัส (youth mental health non-profit Papyrus) ซึ่งเป็นกลุ่มด้านสุขภาพจิตเยาวชนที่ไม่หวังผลกำไรเพื่อหาแนวทางในการสร้างความมั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยทุกคนที่ทำงานร่วมกับนักศึกษา จะได้รับการฝึกอบรมในเรื่องนี้อย่างมีคุณภาพ
แนวทางใหม่ที่สร้างขึ้นสำหรับผู้นำของมหาวิทยาลัย จะครอบคลุมถึงหัวข้อต่างๆ รวมทั้งขั้นตอนในการป้องกันการฆ่าตัวตายของนักเรียน การให้ความช่วยเหลือเมื่อนักเรียนประสบปัญหา การปฏิบัติที่ดีที่สุดในการตอบสนองต่อการฆ่าตัวตายของนักเรียน กรณีศึกษาเกี่ยวกับแนวทางในการป้องกันการฆ่าตัวตายผ่านการทำงานร่วมกัน และการตรวจสอบที่เน้นย้ำขั้นตอนที่ผู้นำของมหาวิทยาลัยจะสามารถทำให้ชุมชนของพวกเขาปลอดภัย
ศาสตราจารย์ Steve West ประธานกลุ่มที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิตของ UUK กล่าวว่า
“เมื่อนักเรียนใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาเลือก ทั้งหมดจะส่งผลทั้งต่อเพื่อน ครอบครัว หรือแม้แต่ตัวเอง คู่มือฉบับใหม่นี้จะมีคำแนะนำในการทำความเข้าใจและป้องกันการฆ่าตัวตาย รวมถึงคำแนะนำในการสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด”
ตามการรายงานของมหาวิทยาลัยสหราชอาณาจักร มีนักเรียนอย่างน้อย 95 วิทยาลัยที่ฆ่าตัวตายในประเทศ ในช่วงปีการศึกษา 2016 – 2017 ที่ผ่านมา สาเหตุส่วนหนึ่งอาจมาจากการที่พวกเขาไม่มีห้องสำหรับให้คำปรึกษา และพื้นที่แห่งความสบายใจที่เพียงพอ
James Murray พ่อของ Ben Murray นักศึกษาที่เสียชีวิตเมื่อต้นปีกล่าวว่า
“ลูกชายของเราเป็นหนึ่งในเคสของการจากไปแบบกระทันหัน โดยไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ เราเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากนี้ จำนวนเด็กๆ ที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจะลดน้อยลง และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคำปรึกษาจึงสำคัญ”
เพื่อป้องกันและเร่งแก้ไขปัญหานักศึกษาที่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ทางมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร จึงตัดสินใจที่จะเร่งปรับนโยบายพร้อมให้การสนับสนุนศูนย์ปรึกษาปัญหาและให้กำลังใจกับนักศึกษาที่มีปัญหา รวมทั้งสุขภาพจิตใจอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อความเครียด
ที่มา: bachelorstudies