มีแนวคิดที่ว่า กรุ๊ปเลือดของเรามีความเชื่อมโยงกับระบบในร่างกาย เช่น การย่อยอาหาร หรือการดึงดูดสารอาหาร ดังนั้น กรุ๊ปเลือดของแต่ละคนจึงสามารถกำหนดอาหารพิเศษที่จะบำรุงให้ร่างกยของคุณมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงที่สุด
ลองมาดูว่ากันว่ากรุ๊ปไหนควรกินอะไรกันบ้างดีกว่า
กรุ๊ป A
สำหรับคนกรุ๊ป A ว่ากันว่าคนกลุ่มนี้มีกรดในกระเพราะอาหารต่ำ จึงไม่สามารถย่อยโปรตีนจากสัตว์และไขมันได้ดีนัก อาหารที่เหมาะสมสำหรับพวกเขาจึงเป็นพืชผักและผลไม้ หรือธัญพืช สิ่งสำคัญคือควรบริโภคอาหารที่สดใหม่และปลอดสารพิษมากที่สุด
กรุ๊ป B
อ้างอิงจากหนังสือ คนที่มีกรุ๊ปเลือดนี้ถือว่าโชคดีเพราะพวกเขาสามารถกินอาหารได้อย่างหลากหลาย อย่างไรก็ตาม มีอาหารบางประเภท เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี มะเขือเทศและถั่วลิสง ที่ควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากอาจทำให้อ้วนได้ง่าย รู้สึกอ่อนเพลีย หรือมีภาวะน้ำตาลในเลือดที่ผิดปกติได้
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกเนื้อไก่ เพราะแม้ว่าจะเป็นเนื้อไม่ติดมันก็สามารถทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองและความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในคนที่มีกรุ๊ปเลือด B ได้
กรุ๊ป AB
คนกรุ๊ป AB มีภาวะกรดในกระเพราะน้อยเหมือนคนกรุ๊ป A แต่สามารถปรับตัวกับอาหารได้เหมือนคนกรุ๊ป B อาหารที่เหมาะกับคนกรุ๊ปเลือดนี้คือ เนื้อสัตว์ ไข่ อาหารทะเล และผักใบเขียว นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำให้พวกเขาลดปริมาณมื้ออาหารให้เล็กลงแต่กินให้บ่อยขึ้นเพื่อให้ย่อยได้ดีขึ้น
กรุ๊ป O
คนกรุ๊ป O มีกรดในกระเพราะสูงทำให้สามารถย่อยโปรตีนและไขมันจากสัตว์ได้ดีมาก นั้นทำให้อาหารที่เหมาะกับคนกรุ๊ปนี้มากที่สุดคือ เนื้อสัตว์ ปลา ผัก และผลไม้
การกินคาร์โบไฮเดรตเช่น ธัญพืช ถั่ว หรือพืชตระกูลถั่วจะถูกนำไปแปรเป็นไขมันสะสมได้อย่างง่ายดาย จึงเป็นอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
วิธีนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก หลังจากที่ ดร. Peter J. D’Adamo เผยแพร่มันลงในบทความซึ่งได้ตีพิมพ์ในปี 1996 แม้ว่าจะยังไม่มีงานวิจัยใดรองรับว่าสิ่งเหล่านี้ถูกหรือผิด แต่ทฤษฏีนี้ก็สามารถนำไปประยุกต์เพื่อสุขภาพที่ดีได้เช่นกัน
การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด เป็นแนวทางของการดูแลสุขภาพด้วยธรรมชาติ เพราะอาหารเป็นยารักษาโรคที่ดีที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่อาจโกหกตัวเองได้เลยก็คือว่า ปัจจุบันนี้มีคนเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด หรือตามคำแนะนำจากแพทย์ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็มีปัจจัยมาจากความเร่งรีบของการใช้ชีวิต อาหารสำเร็จรูปจึงเป็นอาหารทางเลือกของคนทำงาน และด้วยสาเหตุนี้ทำให้ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคประเภท NCD ที่เกิดจากการอักเสบของร่างกายมากขึ้นหลายเท่าในระยะเวลาเพียง 10 ปี เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือ โรคมะเร็ง
อาหารเสริมจึงเป็นทางเลือกที่สำคัญที่นำมาใช้ทดแทนสารอาหารที่ขาดไป ซึ่งหนึ่งในสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายก็คือ โอเมก้า 3-6-9 ซึ่งคนส่วนใหญ่ทราบว่าโอเมก้ามาจากน้ำมันปลา แต่ความจริงก็คือ ถั่วดาวอินคา เป็นพืชที่ได้รับฉายาว่าโอเมก้าบนดินเพราะมีโอเมก้ารวมมากกว่าน้ำมันปลา 50.72% และมีโอเมก้ารวมกว่า 88% ดังนั้น โอเมก้าจากพืช ที่ดีที่สุดจึงมาจากถั่วดาวอินคา
5 ประโยชน์หลักๆ ที่ได้จากถั่วดาวอินคา
1. มีโปรตีนสูงช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย
2. ช่วยรักษาสมดุลของน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคความดัน เบาหวาน หรือโรคหัวใจ
3. โอเมก้า 3 ช่วยบำรุงสมอง
4. ช่วยปรับสมดุลคอลลาเจนให้ผิวหนัง
5. ช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลเข้าสู่ร่างกาย
อ่านเพิ่มเติม ประโยชน์ของถั่วดาวอินคา
ที่มา: brightside