ในยุคเมจิ (ประมาณปี 1868 – 1912) ชาวญี่ปุ่นทั่วไปมีเพียงชื่อ เพราะนามสกุลนั้นถูกสงวนไว้สำหรับชนชั้นสูง หรือผู้ที่มีความสามารถตามเงื่อนไขเท่านั้น
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ระบบการปกครอง และสังคมก็เปลี่ยนตาม ชาวญี่ปุ่นจึงเริ่มมีนามสกุลใช้ และอาจจะเพราะต้องการให้ได้รับความน่าเชื่อถือทางสังคม หรือเหตุผลพิเศษใดๆ ก็แล้วแต่ พวกเขาจึงเลือกที่จะตั้งนามสกุลของตัวเองตามนามสกุลของตระกูลผู้มีอำนาจมาแต่เดิม
ทำให้ในปัจจุบัน มีชาวญี่ปุ่นที่นามสกุลซ้ำกันทั้งที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติอยู่มากมาย วันนี้เราจึงจะพาคุณไปรู้จักกับนามสกุลยอดฮิตของแดนปลาดิบ ไปดูกันเถอะ!!
10. Saitō (斉藤)
จำนวนคนที่ใช้นามสกุลนี้ : 980,000 คน
ความหมาย : คำว่า Sai ในคำแรก เป็นคำที่เกี่ยวข้องกับศาสนา เลยเชื่อกันว่านามสกุลนี้แปลว่า ภาพลักษณ์ของความบริสุทธิ์ และการนมัสการของพระเจ้า
9. Kobayashi (小林)
จำนวนคนที่ใช้นามสกุลนี้ : 1,019,000 คน
ความหมาย : ป่าผืนเล็ก
8. Nakamura (中村)
จำนวนคนที่ใช้นามสกุลนี้ : 1,059,000 คน
ความหมาย : เป็นการผสมคำที่มาจากคำว่าข้างในหรือตรงกลาง และหมู่บ้าน เลยคาดกันว่า บางทีอาจจะหมายถึง “คนจากหมู่บ้านในภาคกลาง”
7. Yamamoto (山本)
จำนวนคนที่ใช้นามสกุลนี้ : 1,077,000 คน
ความหมาย : ต้นกำเนิดของขุนเขา
6. Itō (伊藤)
จำนวนคนที่ใช้นามสกุลนี้ : 1,080,000 คน
ความหมาย : อาจหมายถึง ที่แห่งนี้ หรือ ที่หนึ่ง
5. Watanabe (บางครั้งใช้ 渡辺 บางครั้งก็เขียนว่า 渡邊)
จำนวนคนที่ใช้นามสกุลนี้ : 1,134,000 คน
ความหมาย : ข้ามผ่านพื้นที่ หรือ เส้นเขตแดน
4. Tanaka (田中)
จำนวนคนที่ใช้นามสกุลนี้ : 1,336,000 คน
ความหมาย : อักษร “นาข้าว” 田และ “กลาง / ใน” 中 ชื่อนี้น่าจะมาจากผู้ที่เป็นเจ้าของหรือทำงานใน “เขตปกครองกลาง”
3. Takahashi (高橋)
จำนวนคนที่ใช้นามสกุลนี้ : 1,416,000 คน
ความหมาย : เป็นการผสมคำว่า 高 (ที่สูง ส่วนสูง) และ 橋 (สะพาน) ชี้ให้เห็นว่า บางทีครอบครัวที่เลือกชื่อนี้ เดิมอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่อยู่นอกหุบเขาลึกที่ข้ามผ่านสะพานยาว
2. Suzuki (鈴木)
จำนวนคนที่ใช้นามสกุลนี้ : 1,707,000 คน
ความหมาย : ระฆังบนต้นไม้
1. Satō (佐藤)
จำนวนคนที่ใช้นามสกุลนี้ : 1,928,000 คน
ความหมาย : Satōs สืบเชื้อสายมาจากผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ทำให้ในช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ผู้คนนิยมใช้นามสกุลนี้เพื่อเสริมฐานะทางสังคม
ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น และวัฒนธรรมที่มีการปรับเปลี่ยนจากอดีต ทำให้แม้ว่าในปัจจุบันจะยังคงมีนามสกุลที่ซ้ำกันเป็นจำนวนมากในหมู่ชาวญี่ปุ่น แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการขับเคลื่อนทางสังคม หรือการระบุตัวตนแต่อย่างใด
ที่มา : soranews24