วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับหนึ่งในอาชีพที่อันตรยที่สุดในโลก กับ ‘Deadliest Catch’ หรือเรียกกันภาษาเราๆ ว่า การจับที่อันตรายที่สุดนั่นเอง ลองมาดูกันเลย
อาชีพนี้ก็คืออาชีพจับปูอลาสก้านั่นเองครั้บ อาจจะงงกันว่าจับปู แล้วจะรวย และเสี่ยงตายได้อย่างไร ? ความจริงก็คือ อาชีพจับปูอลาสก้านั้น ถือเป็นอาชีพที่ทำรายได้งดงามมากๆ แต่ก็ถือเป็นอาชีพที่เสี่ยงตายที่สุดในโลกอาชีพหนึ่งเช่นกัน!!!
ลองดูราคาปูกันก่อนดีกว่า สำหรับปูอลาสก้านั้น ในประเทศไทยจะมีราคาสูงถึง กิโลกรัมละ 3,000 บาทโดยประมาณ และจะแพงกว่านี้ ถ้าหากถูกนำไปขายในประเทศที่นิยมกินปูอลาสก้ากัน!!!
ในส่วนของปูอลาสก้านั้น เป็นปูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยหนึ่งในผู้ทำอาชีพนี้กล่าวว่า เค้าได้เงินหลังจากการจับปูอลาสก้า ครั้งละประมาณ 5 แสนบาทเลยทีเดียว และ 4-5 แสนบาทเนี่ย ใช้เวลาเตรียมตัว เตรียมเรือประมาณ 2 เดือน แต่การออกเดินทางจับปูอลาสก้าใช้เวลาเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น!!!
และคนส่วนใหญ่ที่ทำอาชีพนี้ จะออกไปรับงานอย่างอื่นทำ ในช่วงที่หมดเทศกาลจับปูอลาสก้าฟังมาถึงตรงนี้กันก็เรียกได้ว่าดูดีใช่ย่อย…แต่!!!
ง่ายๆ เลยนั่นก็คือ ปูอลาสก้า ก็ต้องอยูที่ อลาสก้าน่ะสิ แล้วทำไมน่ะหรอ…เพราะว่าทะเลที่อาศัยของเหล่าปูอลาสก้านั้น จะประกอบไปด้วย คลื่นลมแรง และสูงอย่างต่ำ 7 – 10 เมตรตลอดเวลา ทำให้เรือนั้นไม่มีทางที่จะอยู่นิ่งๆได้เลย
นอกจากนี้ ด้วย อุณหภูมิ ประมาณ 0 องศา นั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้น้ำทะเลที่กระฉอกเข้ามาในเรือกลายเป็นน้ำแข็งได้ทันที ในขณะที่กำลังหาปลาอยู่ท่ามกลางอุณหภูมิ ต่ำกว่า 0 องศาเช่นนี้ ภายในน้ำทะเล จะยิ่งมีความเย็น ไม่ต่างจากการลงไปแช่ในน้ำแข็งเลยทีเดียว
และทุกๆครั้งที่มีเทศกาลจับปูอลาสก้าเกิดขึ้น จะต้องมีผู้เสียชีวิตเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตนั้น ก็คือการที่ผู้จับตกลงไปในน้ำซึ่งหนาวจัด และเกิดภาวะ สูญเสียความร้อนอย่างเฉียบพลัน!!! ฟังดูเริ่มน่ากลัวแล้วใช่มั้ยล่ะ
แถมในส่วนของกฎหมายก็ค่อนข้างจะเคร่งครัดเอาซะมากๆ เพราะขนาดของปูที่เราจับได้นั้น ต้องตรงตามมาตรฐานตามที่กฏหมายกำหนดเท่านั้น มิเช่นนั้นอาจถูกเพิกถอนใบอณุญาติกันได้ทันทีเลยทีเดียว
ภาพการจับ
.
.
.
.
ฟังดูแล้วลำบากไปอีกนะเนี่ยว่ามั้ย -*- ขอทำงานไม่เสี่ยงตายดีกว่าละกันเนาะ อิอิ ถ้าใครเป็นคนแกร่งชอบความท้าทายรายได้งามล่ะก็ งานนี้นี่แหละ สุดยอดไปเลยสำหรับคุณ!!!
Source: Oknation