รับรองได้เลยล่ะว่าถ้าใครเป็นแฟนๆ เรื่องผีหรือชอบเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติล่ะก็ บทความนี้จะต้องถูกใจเพื่อนๆ อย่างแน่นอนเลยล่ะ เพราะเป็นเรื่องราวของผีในโรงเรียน!!!
ซึ่งเรื่องซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ถูกพูดถึงแลเล่าต่อๆกันมา เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะหลอนและน่ากลัวขนาดไหน และไม่แน่ อาจเป็นโรงเรียนในสมัยเด็กๆ ของคุณก็เป็นได้!!!
1. ใครในห้องสมุด
เป็นเรื่องของห้องสมุดในโรงเรียนชื่อดังที่ว่ากันว่ามีเรื่องเฮี้ยนเรื่องหลอนให้เล่ากันได้ทุกวี่ทุกวัน คนที่เจอบ่อยสุดคงหนีไม่พ้นบรรณารักษ์ที่นั่งๆอยู่ก็จะเห็นเงาดำๆอยู่บริเวณมุมมืดของห้องสมุดแต่พอเดินไปดูกลับไม่มีใคร กลับมานั่งก็ได้ยินเสียงคนคุยซุบซิบกัน เสียงวางหนังสือ
ทั้งๆที่ในห้องนั้นไม่มีใคร..บางครั้งตอนเช้าพอเปิดห้องสมุดมากลับมีรอยเท้าเดินทั่วห้องสมุดทั้งๆที่ก่อนจะปิดห้องก็ทำความสะอาดอย่างดีแล้ว ทำเอางงกันไปหมด!! อีกเรื่องที่เป็นตำนานก็คือเรื่องของบัตรยืมห้องสมุดของอดีตนักเรียนคนนึงซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่กลับมีคนเห็นบัตรยืมของเค้าไปตกอยู่ตรงมุมมืดที่ไม่ค่อยมีใครเข้าไปใช้งานบ่อยๆ ขนาดทุกวันนี้ยังมีคนเอาบัตร(ผี)ใบนี้มาคืนอยู่บ่อยๆ จนบรรณารักษ์หลอนกันไปหมด
2. เรื่องของตึก 2
โรงเรียนมัธยมวัดพระศรีมหาธาตุ ที่มีตึกสุดหลอนที่เด็กๆเล่ากันมาจนหลอนนั่นก็คือตึก 2 ที่เมื่อก่อนมีลิฟท์แต่จู่ๆก็เลิกใช้กันโดยไม่มีใครรู้สาเหตุ แต่จริงๆทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าลิฟท์ตัวนี้มันไม่ธรรมดา เพราะเคยมีคนงานก่อสร้างตายขณะที่กำลังติดตั้งลิฟท์ตัวนี้อยู่ คนเลยมักเจอเรื่องแปลกๆบ่อย ทั้งเงาประหลาด เสียงกรีดร้อง และมือผีที่โผล่ออกมาให้เห็นกันจะๆ
เรื่องของตึก 2 ยังไม่หมด เพราะมีเรื่องของห้องน้ำที่ตอนเย็นๆใครเข้าไปใช้งานมักจะรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีคนเข้าห้องน้ำห้องข้างๆอยู่ตลอดเวลาทั้งๆที่ไม่คน!! แถมยังเคยมีคนเห็นเงาคนต่อคิวทั้งๆที่ออกมาก็ไม่มีใคร เสียงเปิด-ปิดประตูที่ดังปึ้งปั้งๆ ทั้งๆที่ไม่มีคนอยู่ ทำเอาคนไม่กล้าเดินผ่านห้องน้ำคนเดียวเลย
3. ผีเหรียญในโรงเรียน
คงไม่แปลกที่ใครจะอยากลองเล่นผีถ้วยแก้วเพื่อลองดีในโรงเรียน แต่เมื่อฟังเรื่องนี้แล้วหลายคนอาจจะกลัวจนไม่กล้าเล่นก็ได้ เป็นเรื่องของห้องดนตรีไทยที่ถูกปิดตาย ที่ว่ากันว่าใครเดินผ่าน ใครไปส่องดูต้องเจอดีอยู่บ่อยๆ เลยทำให้เด็กกลุ่มหนึ่งอยากลองของเลยไปเล่นผีเหรียญในห้องนั้นดู ตอนแรกๆก็คิดว่าคนเป็นคนผลักเหรียญ หลังๆเริ่มน่ากลัวขึ้นจนเพื่อนคนนึงในกลุ่มลงไปนอนชักอยู่กับพื้น ที่เหลือจึงตะโกนเรียกเพื่อนที่รออยู่ข้างนอกให้เข้ามาช่วยแต่ก็ไม่มีใครเข้ามา…
จู่ๆ ลมพัดมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ทำเอาประตูหน้าต่างชนกันดังปังๆๆ จึงรีบวิ่งไปเปิดประตูแต่เปิดยังไงก็ไม่ออก จึงพากันยกมือไหว้ขอขมา ขอโทษที่เข้ามาลบหลู่ ทันใดนั้นประตูก็เปิดออกอย่างง่ายดาย..เพื่อนที่รอยู่ข้างนอกก็ตกใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมไม่เรียกให้ช่วย ทั้งๆที่ข้างในตะโกนกันแทบตาย แต่ข้างนอกได้ยินแต่เสียงหัวเราะ!!
4. หลอน ณ อาคาร 6
เป็นเรื่องของโรงเรียนชื่อดังย่านปากเกร็ด นนทบุรี ที่ว่ากันว่าแต่ก่อนเคยเป็นศาลาพักศพมาก่อน จึงทำให้ทุกวันอังคารจะต้องมีการทำบุญตึก เพราะมีเรื่องราวหลอนๆเกิดขึ้นอยู่ตลอด เคยมีครูคนนึงทำงานเลิกดึก พอเดินลงมากลับเห็นเด็กใส่ชุดนักเรียนนั่งอยู่บนป้ายตรงทางเดิน ครูจึงเข้าไปถามว่า เป็นอะไร ทำไมยังไม่กลับบ้าน แต่พอเด็กคนนั้นเงยหน้าขึ้นครูก็ตกใจจนร้องไม่ออก เพราะน้ำตาของเด็กคนนั้นไหลออกมาเป็นเลือด!!!
แถมป้ายที่นั่งอยู่ก็ติดกับผนังไม่มีทางที่คนจะนั่งตรงนั้นได้ ครูเลยต้องรีบวิ่งกลับบ้านไป เรื่องไม่ได้มีแค่นี้ เพราะเคยมีเด็กที่มาเช้าๆ นั่งรอเพื่อนในห้องอยู่ดีๆก็มีเด็กหญิงใส่ชุดนักเรียนเดินเข้ามา แต่หน้าไม่คุ้น ถึงถามว่าชื่ออะไรหรอ ทำไมมาเช้าจัง? เด็กคนนั้นไม่ตอบกลับร้องไห้และวิ่งออกไปตรงระเบียงพร้อมกลับกระโดดลงไป!! เมื่อวิ่งตามไปดูกลับไม่เห็นร่างของใครทั้งนั้น เลยว่ากันว่าเป็นวิญญาณของรุ่นพี่ที่เคยกระโดดตึกฆ่าตัวตายนั่นเอง
5. (ผี)คุณยายบนตึกเรียน
เป็นเรื่องราวที่นักเรียนเล่าต่อๆกันมา กับสิ่งที่ครูคนนึงได้เห็น..วันนั้นครูคนนี้มาโรงเรียนเช้าเลยยังไม่ค่อยมีคนมากนัก พอเดินไปถึงตึกจึงมองขึ้นไป กลับเห็นคุณยายแก่ๆคนนึงใส่ชุดออกจีนๆ ครูก็คิดในใจว่าเป็นผู้ปกครองของใคร? หรือมาหาใคร? จึงรีบเดินขึ้นตึก พอไปถึงชั้นกลับไม่พบคุณยายคนนั้นแล้วทั้งๆที่ทางขึ้น-ลงของตึกนี้มีอยู่ทางเดียว แค่คิดครูก็ขนลุกแล้วจึงตัดสินใจหันหลังเพื่อที่จะเดินต่อ..แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นยายคนนี้นั่งอยู่หน้าห้อง
ครูจึงทำเป็นมองไม่เห็นและจะเดินเข้าห้องไป แต่ระหว่างที่เดิน ยายกลับหันคอตามครูไปจนเลือดค่อยๆไหลออกมาจากคอ ใบหน้าก็ยิ้มไปด้วย แล้วก็มีเสียงเอี๊ยดดดด!! ดังลั่นเหมือนเสียงกลอนประตู ครูจึงรีบวิ่งเข้าห้องและไม่หันกลับมาดู เหมือนเรื่องจะจบแล้วแต่พอนเย็นครูก็ได้ยินข่าวว่าแม่ของ ผอ. โรงเรียนตกบันไดคอหักเสียชีวิต เมื่อไปเห็นรูปก็ถึงกับช็อค เพราะคือคุณยายที่ครูเห็นตอนเช้านั่นเอง!!
6. ผีห้องพยาบาล
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของโรงเรียนชื่อดังแถวๆสยาม ที่เป็นแหล่งรวมเด็กเก่งทั้งหลาย เรื่องมีอยู่ว่าปกติเด็กๆที่ขี้เกียจเรียน อยากจะโดดเรียน ไม่ชอบเรียนวิชาไหนก็มักจะอ้างว่าปวดหัว ไม่สบายจนสุดท้ายต้องไปนอนที่ห้องพยาบาลใช่มั้ยล่ะ
แต่ที่โรงเรียนนี้คงจะทำอย่างนั้นได้ยาก เพราะมีเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่าถ้าใครแอบป่วยไปนอนห้องพยาบาลล่ะก็จะเจอดี คือจะเห็นเท้าคนเดินมาแถวๆเตียงที่มีผ้ากั้นไว้ แต่กลับไม่เห็นเงาคน!! บ้างก็ได้ยินเสียงคนเดินแต่ไม่มีใครอยู่ในห้อง ทำเอาพวกเด็กแกล้งป่วยไม่กล้ามานอนห้องพยาบาลกันเลย -*-
7. รองเท้าส้นสูงในห้องน้ำหญิง
เรื่องนี้เป็นเรื่องของห้องน้ำหญิงบริเวณโรงอาหารของโรงเรียนหนึ่ง ที่มีเรื่องเล่ากันว่ามักจะได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงเดินวนไปวนมาในห้องน้ำอย่างไม่หยุดหย่อน
เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของผู้หญิงที่เคยถูกฆ่าตายในห้องน้ำแห่งนี้ ซึ่งตอนนั้นเธอใส่รองเท้าส้นสูงอยู่ด้วย เลยทำให้ยิ่งเชื่อกันเข้าไปใหญ่ว่าวิญญาณของเธอยังไม่ไปไหน แต่ยังคอยวนเวียนอยู่ในจุดที่เธอตาย..
8. อาถรรพ์โรงเรียนประถม
โรงเรียนประถมแห่งนี้อยู่ใจกลางเมืองนนทบุรีที่มีเรื่องเล่ามากมาย ทั้งเรื่องกุมารทองของบรรณารักษ์ห้องสมุด ที่พอตอนเช้าทีไรห้องสมุดที่จัดไว้เรียบร้อยต้องถูกรื้อ ค้น หนังสือกระจัดกระจาย อยู่ๆหนังสือก็ตกลงมาจากชั้นโดยที่แถวนั้นไม่มีคนแถมยังมีเสียงวิ่งเล่นของเด็กมาให้ได้ยินอยู่บ่อยๆ
และยังมีเรื่องห้องน้ำชายที่ถูกปิดตาย เพราะมีเสียงร้องไห้ปริศนา และมีคนเห็นวิญญาณของเด็กหญิงยืนร้องไห้สะท้อนกระจก!! แต่สุดท้ายก็ได้รู้ความจริงว่า ที่ดินตรงนี้แต่ก่อนเป็นโรงพยาบาลเก่า ขนาดพระยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นวิญญาณอาฆาตที่แรงกล้าของที่นี่
9. ตำนานผีโบว์เขียว
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด..ปกติโรงเรียนก็มักจะมีกฎให้นักเรียนหญิงผูกโบว์ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นสีดำ น้ำเงิน แต่มีนักเรียนหญิงคนนึงที่ผูกโบว์สีเขียวมาโรงเรียนทุกวัน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวเธอ อยู่มาวันนึงเรื่องร้ายก็เกิดขึ้น
เมื่อพัดลมในห้องเรียนเกิดหล่นลงมาตรงที่ๆเธอนั่งพอดีทำให้เธอเสียชีวิตคาห้องเรียนแบบนั้น..เวลาผ่านไปเรื่องราวของเธอก็เงียบหายไปตามกาลเวลา จนมาถึงคาบเรียนของครูใหม่คนนึง ที่พอถามคำถามขึ้นและไม่มีใครตอบ จู่ๆ ครูก็พูดขึ้นมาว่า “อ่ะ โบว์เขียวตอบข้อนี้ซิ” นักเรียนที่อยู่ในห้องก็งงกันใหญ่ เพราะไม่มีใครผูกโบว์สีนี้ ครูก็ยังไม่หยุดชี้ไปที่หลังห้องบอกว่า “เด็กคนนั้นอ่ะ ที่อยู่หลังห้อง” พูดจบทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ!!
10. ครูนาฏศิลป์
เรื่องแรกเป็นเรื่องในโรงเรียนรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพนี่เอง โดยนักเรียนส่วนใหญ่ในโรงเรียนมักจะเคยได้ยินเรื่องราวของ “ครูวิภา” ครูสอนนาฏศิลป์ที่เคร่งครัด เข้มงวด ระเบียบต้องเป๊ะๆทุกอย่าง แถมยังเป็นครูที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการร่ายรำเป็นอย่างมาก จนมีวันหนึ่งที่ครูป่วยหนักจนถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ด้วยความรับผิดชอบและรักในอาชีพ ครูจึงหนีออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อที่จะมาฝึกซ้อมเด็กๆในการแข่งขันรำไทย
ในคืนนั้นเองอาการของครูทรุดลงทำให้ต้องไปเอายาที่ลืมไว้ในห้องนาฏศิลป์ แต่โชคไม่ดี และไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เช้าวันต่อมามีคนพบศพของครูวิภาในห้องนั้น..เวลาผ่านไปทางโรงเรียนต้องการจะทุบห้องนั้นทิ้ง แต่ทุกครั้งที่มีคนเข้าไปพยายามย้ายของจะมีเสียงดนตรีไทย และมีคน(หรือผี) มารำอยู่ในห้องนั้นทุกวัน!! จนช่างไม่กล้าเข้าไปย้ายของ ปัจจุบันห้องนาฏศิลป์ของครูวิภาก็ยังอยู่เหมือนเดิม..
อื้อหือออ หลอนแบบนี้ขอตัวลาไปก่อนนะจ๊ะ บรึ๋ยยยย ไว้พบกันได้ใหม่ทุกๆ วันกับเรื่องราวดีๆ จาก ScholarShip.in.th จ้า
Source: Teenee