ใครที่ชอบเล่นโทรศัพท์ไปด้วย ดูทีวีไปด้วย หรือเล่นสื่ออื่นๆเช่นวีดีโอเกม ไปพร้อมๆกันบ้างคะ บางทีเราอาจจะคิดว่าเป็นการคลายเครียด ไม่มีอะไรเสียหาย แต่เพื่อนๆเคยสังเกตุตัวเองหรือเปล่า เวลาเรียนที่โรงเรียนเพื่อนๆจะจำอะไรได้ยาก หรือหงุดหงิดง่ายสมาธิสั้น ลองมาดูงานวิจัยกันดีกว่าค่ะ
การเล่นส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือและการดูโทรทัศน์จัดว่าเป็นพฤติกรรมที่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้วในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ แต่การทำทั้งสองอย่างไปพร้อม ๆ กันนี้อาจจะไม่ดีแน่ เมื่อนักวิจัยได้ค้นพบว่า เด็กวัยรุ่นที่ทำสองสิ่งนี้พร้อม ๆ กันมักจะมีผลการเรียนที่ไม่ดี
เอมี เอส. ฟินน์ นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยโตรอนโต แคนาดา เผยว่า ยิ่งวัยรุ่นแบ่งสมาธิไปทำงานหลาย ๆ อย่าง เช่น เล่นโทรศัพท์มือถือ วิดีโอเกม หรือทีวี ไปพร้อม ๆ กันนั้น จะทำให้คะแนนวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษลดลงไป โดยนักวิจัยพบว่า วัยรุ่นที่มีพฤติกรรมเหล่านี้มักจะเป็นผู้ที่หุนหันพลันแล่น และมีความทรงจำเพื่อการทำงานที่แย่ลง โดยงานวิจัยนี้ได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการ Psychonomic Bulletin & Review แล้ว
พฤติกรรมเหล่านี้ เรียกว่า “การใช้สื่อหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน” เช่น การดูโทรทัศน์ไปพร้อมกับการส่งข้อความด้วยสมาร์ทโฟน พฤติกรรมเหล่านี้นับว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา และเกิดขึ้นเป็นประจำในหมู่วัยรุ่น แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีการศึกษาผลกระทบของพฤติกรรมเหล่านี้ต่อการเรียนรู้ของมนุษย์ ความสามารถในการเรียนที่โรงเรียน และบุคลิกภาพ
นักวิจัยจึงได้เริ่มศึกษาโดยให้อาสาสมัครที่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 73 คน ในเขตบอสตันตอบแบบสอบถามการใช้สื่อต่าง ๆ โดยมีการถามจำนวนชั่วโมงในหนึ่งสัปดาห์ที่ใช้ไปกับการดูโทรทัศน์หรือวิดีโอ ฟังเพลง เล่นวิดีโอเกม อ่านสื่อสิ่งพิมพ์หรืออิเล็กทรอนิกส์ คุยโทรศัพท์ ส่งข้อความแชท ทำงานประดิษฐ์หรือเขียนหนังสือ
ในการวัดความทรงจำสำหรับการทำงานนั้น นักวิจัยได้ทดสอบความว่องไว คำศัพท์ ระดับของความอดทน สติ และความหุนหันพลันแล่น ตลอดจนได้ถามผู้เข้าร่วมการทดลองว่า มีความเชื่อว่าความสามารถของตนนั้นจะคงอยู่กับที่หรือจะสามารถพัฒนาขึ้นมาได้ในอนาคต
นอกจากนี้ นักวิจัยยังได้สืบค้นข้อมูลในการสอบภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์จากระบบการประเมินแมสซาชูเซ็ตส์เมื่อปี 2012 ของอาสาสมัครทุกคนด้วย
โดยรวมแล้ว ผู้เข้าร่วมการทดลองที่บอกว่าใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการใช้สื่อต่าง ๆ จะใช้เวลาดูโทรทัศน์เฉลี่ย 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมีแนวโน้มว่าจะทำหลายอย่างพร้อมกันคิดเป็นเวลา 25 เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ดูโทรทัศน์
ผลการศึกษาออกมาว่า ลักษณะการใช้สื่อนอกโรงเรียนนั้นมีความสัมพันธ์กับคะแนนสอบที่โรงเรียนด้วย โดยวัยรุ่นที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการใช้สื่อหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กันจะมีคะแนนทางการเรียนที่น้อยกว่าคนอื่น ๆ โดยมีคะแนนในการทดสอบความทรงจำเพื่อการทำงานที่น้อยกว่า มักจะเป็นคนหุนหันพลันแล่น และมักจะเชื่อว่าความฉลาดของตัวเองนั้นไม่สามารถพัฒนาได้
ก่อนหน้านี้เคยมีการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างระบบการเรียนรู้กับการใช้สื่อหลายอย่างพร้อมกันในผู้ใหญ่ และงานวิจัยนี้ก็ได้ตอกย้ำว่า ผลกระทบดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นแล้ว
“เราพบว่าพฤติกรรมการใช้สื่อหลายอย่างพร้อมกันนั้นเกี่ยวข้องกับผลการเรียนที่แย่ลง ความสัมพันธ์นี้อาจจะเป็นเพราะความสามารถในการบริหารตนเองด้อยลงไป และมีความหุนหันพลันแล่นมากขึ้น” ฟินน์สรุป
ดังนั้นแล้ว การพัฒนาการเรียนรู้จึงไม่ได้อยู่ที่การควบคุมเวลาที่ใช้ไปในการดูโทรทัศน์ เล่นวิดีโอเกม หรือใช้มือถือเท่านั้น แต่ต้องดูที่เวลาที่ทำหลาย ๆ อย่างนี้ด้วยว่า มีการทำพร้อมกันหรือไม่
“การหาสาเหตุของเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยาก เพราะว่าการใช้สื่อหลายอย่างพร้อมกันนี้อาจจะเป็นผลมาจากการที่ระบบการเรียนรู้ได้เปลี่ยนไปแล้วก็ได้ หรืออาจจะไม่เกี่ยวกันเลยก็ได้” ฟินน์เผย โดยย้ำถึงความสำคัญที่จะต้องมีการวิจัยต่อไปเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
เคยรู้สึกบ้างไหมคะบางทีที่เราติดมือถือมาก อยากดูซีรี่ย์ด้วย ก็เลยทำให้เราต้องคลุกคลีกับสื่อสองอย่างพร้อมกันทำให้เราเกิดอาการสมาธิสั้น และอีกอย่างการที่เราติดการใช้สื่อมากเกินไปก็ทำให้เสียบุคลิคอีกด้วยนะจ๊ะ
source: sanook