สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Scholarship.in.th วันนี้เราก็มีสาระดีๆมาฝากเพื่อนๆอีกเช่นเคยนะครับ ว่าแต่จะเป็นเรื่องอะไรนั้นตามไปชมกันเลยครับ
จากการค้นพบหลุมยักษ์บนคาบสมุทรยามาลของไซบีเรีย ซึ่งเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจของชาวโลก ต่างก็มีข้อสันนิษฐานต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เกิดจากมนุษย์ต่างดาว อุกกาบาตตก ฯลฯ แต่ในตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ไขคำตอบแล้วครับ
ศาสตราจารย์วาซิลี่ โบโกยาฟเลนสกี้ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ หัวหน้าทีมวิจัย ได้เฉลยสาเหตุการเกิดของหลุมยุบยักษ์ขนาดใหญ่ ที่ถูกตั้งชื่อว่าหลุม B-1 ว่า ในอดีตหลุมนี้เป็นเคยเป็นปิงโก (Pingo) หรือเนินดินซึ่งปกคลุมเบื้องล่างที่เป็นน้ำแข็ง อันพบได้มากในพื้นที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกเหนือย่อย ต่อมาน้ำแข็งใต้ดินเริ่มละลายจากความร้อนของพื้นพิภพ และก๊าซจากใต้ดิน รวมถึงก๊าซมีเทนที่ซึมผ่านขึ้นมาจากรอยแยกแผ่นดินบนคาบสมุทรนี้ แทรกซึมเข้าไปในแกนน้ำแข็งที่กำลังอยู่ในสภาพกึ่งละลาย และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็เกิดการระเบิดออกมา กลายเป็นหลุมยุบขนาดใหญ่ดังที่เห็น
ศาสตราจารย์วาซิลี่ยังกล่าวต่อไปว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มีการศึกษาพบหลุมยุบยักษ์ที่ก่อตัวขึ้นด้วยสาเหตุดังกล่าว เพราะปกติแล้ว ปิงโกจะกลายเป็นหลุมยุบเนื่องมาจากการละลายของน้ำแข็งจนผืนดินด้านบนทรุดตัวตามลงไป
จากการตรวจสอบล่าสุดนี้ยังพบว่า หลุม B-1 มีความลึกถึง 60 เมตร จากการวัดด้วยอุปกรณ์เสียงสะท้อน อันลึกกว่าที่สามารถวัดได้ในช่วงแรก และตอนนี้ก็มีน้ำเอ่อนองอยู่ด้านก้นหลุม อันมาจากน้ำแข็งที่ละลายหลังหมดฤดูหนาว และกำลังเอ่อเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตนกว่าน้ำจะปริ่มจนหลุมดังกล่าวกลายเป็นทะเลสาบไปอย่างสมบูรณ์ภายใน 10-20 ปี เมื่อถึงเวลานั้นคนรุ่นหลังอาจดูไม่ออกแล้วว่ามันเคยเป็นหลุมยุบ เนื่องจากปากหลุมที่ดิ่งชันจะถูกฝนและหิมะละลายกัดเซาะไป ฉะนั้นการศึกษาสำรวจหลุมยักษ์นี้ควรรีบทำให้เสร็จภายใน 1-2 ปีนับจากนี้ไป
หวังว่าหลุมยักษ์เหล่านี้คงจะไม่ได้เป็นลางบอกเหตุอะไรกับมนุษยชาติของเรานะครับ >_<
วันนี้เราขอลาไปเพียงเท่านี้นะครับผม แล้วกลับมาพบกับวาไรตี้ๆจาก Scholarship.in.th นะครับผม
ที่มา kapook