หลายๆคนคงเคยไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมแล้วได้พบปะกับเพื่อนหรือสังคมใหม่ๆใช่มั้ยล่ะ เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนพวกนั้นมีนิสัยเป็นอย่างไร บางคนดูผิวเผินดูเหมือนจะดี ซึ่งอาจเป็นปกติของมนุษย์ที่พึงกระทำกับคนแปลกหน้า แต่ที่เราต้องระวังคือบุคคลประเภทที่ดูแล้วว่า ดีเกินไป ทั้งๆที่ยังไม่รู้จัก !!
The Annual Meeting of the Association for Computational Linguistics (AMACL) เปิดเผยออกมาว่าคนที่มีนิสัยสุภาพต่อคนอื่นมากเกินไป มีแนวโน้มที่จะหักหลังเพื่อนได้มากกว่าคนปกติคนอื่น นักวิทยาศาสตร์ได้ลองทำการทดลองที่ชื่อว่า “เกมส์สนทนา” ในวงสนทนา และสรุปผลดังต่อไปนี้
พฤติกรรมขณะสนทนา
พฤติกรรมการเข้าสังคมของมนุษย์มักแตกต่างกัน หัวใจหลักของเกมนี้คือ เมื่อคู่สนทนาคุยกันจนเริ่มมีความสนิทสนม นักวิจัยจะสังเกตุพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคู่สนทนาได้ สิ่งที่น่าตกใจกับการทดลองนี้คือ บุคคลที่สุภาพเกินไปที่มีแนวโน้มจะไม่มีความจริงใจต่อคนอื่น มักเปลี่ยนน้ำเสียงในการสนทนาอย่างฉับพลันเมื่อมีการสนทนาไปเรื่อยๆ เขาจะสอดแทรกความคิดว่าตนเป็นคนคิดบวก มีการใช้วาทกรรม และทำตัวสุภาพมากๆ
สุภาพมากเท่าไหร่ อันตรายมากเท่านั้น !
Science news ให้ความเห็นว่า การที่คนเราจะทำตัวแสนดี สุภาพสุดๆ มันเป็นกลยุทธ์ของการทำสงครามเลยล่ะ คุณทำตัวให้ดูสดใส มีความคิด เพื่อที่เวลาคุณอยากทำสิ่งชั่วๆที่ตัวเองต้องการ แล้วจะได้ไม่มีใครเชื่อ สังคมจะได้ไม่ตราหน้าไงล่ะ (โอ้โห นี่มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนมาก โลกทุกวันนี้ชักอยู่ยากจริงๆ)
การนำเอาไปใช้กับชีวิตจริง
การสนทนาในชีวิตจริงมีหลายรูปแบบและซับซ้อนมาก การที่เราจะเอาผลการทดลองไปสรุปว่าใครไม่จริงใจกับเราหรือไม่ ยังไม่สามารถนำไปใช้ได้ เพราะคนมีหลากหลาย เราอาจจะตัดสินคนผิดไป นักวิจัยชี้แจงว่าหากจะเอาการทดลองไปประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงนั้น การสนทนาที่เกิดควรจะสนิทและลงลึกรายละเอียดมากกว่านี้ การคุยกันไม่กี่ประโยค ไม่สามารถตัดสินคนๆหนึ่งได้
นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ Cornell University กล่าวว่า การสังเกตในเรื่องนี้ต้องดูความสมดุลโดยรวมในเรื่อง คำพูด และ การกระทำ ร่วมด้วย คนที่สุภาพมากเกินไปเขาทำตัวให้ทุกคนมองว่าไม่มีพิษไม่มีภัย แต่เขาก็มีโลกของเขาเอง
ลองสังเกต เพื่อนๆและคนรอบข้างเราดูนะครับ เพื่อนสนิทก็มักจะมีอะไรที่คล้ายกัน นั่นก็คือเซ้นส์ในการเลือกเพื่อนๆ ของแต่ละคนที่เป็นเอกลักษณ์ ใครจะลองเอาเทคนิคไปใช้ดูเพื่อนใหม่ๆก็ระวังด้วยนะครับ อย่าด่วนตัดสินใจ เราอาจเสียเพื่อนใหม่ดีๆไปก็ได้ครับ เพราะตัวนักวิทยาศาสตร์เองยังออกมาการันตีเลยว่า มันต้องใช้เวลาดูนานกว่านี้ ร่วมกับการดูพฤติกรรมด้วย
source: lifehack