สำหรับวันนี้ทาง ScholarShip.in.th มีความรู้มาฝากเพื่อนๆ กันนะครับ เป็นเรื่องที่เราอาจจะไม่สังเกตในชีวิตประจำวันเรานี่แหละ รายละเอียดจะเป็นยังไงเรามาชมไปพร้อมๆ กันเลย
เพื่อนๆ คงแปลกใจกันใช่ไหมครับว่าทำไมคนเรามีเวลาเท่ากัน แต่บางคนกลับประสบความสำเร็จในชีวิต แต่บางคนกลับถึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร หรือล้มเหลวไปเลยก็มี แน่นอนครับว่าสิ่งเหล่านี้มีปัจจัยบางอย่างเป็นตัวแปรอยู่
วันนี้เราจึงจะพามาแนะนำให้รู้จักกับ “วลี” ที่คนไม่ประสบความสำเร็จมักจะชอบพูดกัน เพราะฉะนั้นเราควรจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดสิ่งเหล่านี้ไว้นะครับ
มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก
เราจะประสบความสำเร็จได้ก็ด้วยความตั้งใจและพยายามของเรานี่แหละ การพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้จึงเป็นสิ่งที่กีดขวางศักยพภาพที่จะทำให้เราไปสู่ความสำเร็จได้นั่นเอง (นอกจากสิ่งที่เป้นไปไม่ได้จริงๆ เช่น ทำให้หมาเหาะได้ -*-)
ฉันจะทำงานนี้ทั้งหมดเอง
ถึงแม้ว่าเราจะมีความเก่งกล้าสามารถมากเท่าไร แต่ไม่มีใครในโลกนี้สามารถอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว หรือประสบความสำเร็จได้ด้วยตนเองโดยที่ไม่พึ่งพาคนอื่น
ฉันไม่มีทางทำได้หรอก
เช่นในการสมัครงานหนึ่งๆ ที่มีผู้สมัครกว่า 100 คน แต่ทางบริษัทจะจ้างเพียงแค่ 1 คน แทนที่จะพูดว่า “ฉันไม่มีทางทำมันได้หรอก” ควรเปลี่ยนเป็นคำว่า “ทำไมฉันถึงจะทำมันไม่ได้ล่ะ” แทนนะครับ อิอิ
ฉันไม่มีทางไปแข่งกับเขาได้หรอก เขานำหน้าฉันอยู่ตั้งไกล
แทนที่จะเก็บเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นความท้อแท้ คนที่ประสบความสำเร็จมักจะใช้สิ่งเหล่านี้แหละ เป็นแรงผลักดันให้ตัวเองก้าวล้ำคนอื่นไป
ฉันไม่พอใจมาก
บางครั้งอุปสรรคที่ทำให้เราไม่สามารถก้าวต่อไปได้จะมาถึง แทนที่จะเอาเวลาไปบ่นเพื่อนร่วมงานของคุณและทำให้เสียน้ำใจกัน คุณควรจะยืดหยุ่นบ้าง ให้พวกเขาได้พักบ้าง นอกจากจะช่วยให้เขากลับมาทำงานได้ดีอีกแล้วอาจทำงานดีมากขึ้นอีกด้วย คนประสบความสำเร็จจะรู้จักการยืดหยุ่นในเวลาที่สมควรนั่นเอง
ต้องทำงานให้เนี๊ยบนะ!
นอกจากจะสร้างความไม่พอใจให้กับเพื่อนร่วมงานของคุณว่าคุณดูเจ้ากี้เจ้าการมากเกินไปแล้ว การบ่นในส่วนของรายละเอียดยิบย่อยเหล่านี้ยังเป็นการทำให้งานออกมาไม่ดีอีกด้วย อย่าลืมว่ากรุงโรมไม่ได้สร้างภายในข้ามคืน
ฉันจะทำแบบนี้
การเปิดใจเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าคุณไม่เปิดใจฟังเสียงผู้คนที่ทักท้วงแล้ว การทำงานออกมาอาจจะไม่ดีหรือพังไม่เป็นท่าเลยก็ได้
ฉันไม่ต้องการคำแนะนำของคุณ
แน่นอนครับ นี่เป้นประโยคเด็ดของผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จเลยก็ว่าได้ ทุกๆ คนต้องการคำแนะนำดีๆ ทั้งนั้น คนที่ประสบความสำเร็จจะรู้ว่าตนเองมีจุดอ่อนตรงไหน และรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆ เพื่อมาสเริมนั่นเอง
ฉันรู้แล้วน่า
มีคนพยายามจะช่วยคุณในด้านใดด้านหนึ่ง แต่แล้วคุณก็พูดว่า “ฉันรูแล้ว!!” นี่เป้นคำพูดที่จะทำให้ทีมหรือเพื่อนร่วมงานของคุณรู้สึกแย่เอามากๆ เลยล่ะ ลองเปลี่ยนเป็น “เอ้อ จริงด้วยแหละ ขอบคุณนะ” ดูแล้วทุกๆ อย่างจะดีขึ้น ^^
ขอฉันเช็คตารางคิวงานดูก่อนนะ
ไม่ได้แปลว่าให้ตอบรับทุกๆ อย่างที่เข้ามา แต่การพูดแบบนี้เหมือนว่าคุณไม่มีเวลาให้กับคนๆ นั้นหรือ บางสิ่งที่เขาเสนอ การพูดแบบนี้จะทำให้เพื่อนร่วมงานคุณรู้สึกไม่มีความสำคัญและมีปัญหาในภายหลังแน่ ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา
เธอพลาดแล้วล่ะ
เป็นวลีที่ควรหลีกเลี่ยงอีกหนึ่งวลีเพราะเหมือนเป็นการตบหน้าอีกฝ่ายอย่างจังๆ ควรจะเปลี่ยนเป็น “ใช่ๆ ฉันจะลองไปทำดูนะ” แทนก็จะเป้นการรักษาน้ำใจอีกฝ่ายได้ดีเลยล่ะ
ฉันไม่ทำ
เป็นอีกหนึ่งวลีที่ควรหลีกเลี่ยงเลยแหละ เพราะจะทำให้งานไม่สำเร็จตั้งแต่ไม่เริ่มเลยก็ว่าได้
จะไม่มีใครเห็นงานของฉันจนกว่ามันจะเสร็จ
การโชว์ผลงานที่กำลังทำอยู่ของคุณให้คนที่คุณไว้ใจได้ดูนั้น คุณก็จะได้มุมมองใหม่ๆ เพื่อนำมาพัฒนาผลงานของคุณนั่นเอง
ฉันไม่มีเวลามาผ่อนคลายหรอก
คนที่ประสบความสำเร็จนั้นมักจะผ่อนคลายตัวเองอยู่บ่อยๆ เช่น บิลล์ เกทส์นั้นชอบไปตีกอล์ฟ วาร์เรน บัฟเฟ่ต์ชอบเล่นอูคูเลเล่ หรือไอสไตน์ชอบสีไวโอลิน ถึงชีวิตจะดูยุ่งยากหรือลำบากแค่ไหน ก็อย่าลืมผ่อนคลายตัวเองกันนะจ๊ะ
มันไม่ยุติธรรมเลย
ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ยุติธรรม! การมานั่งบ่นพร่อเพ้อไม่ได้ช่วยอะไร ควรหาเวลานำมาปรับปรุงแก้ไขสิ่งนั้นดีกว่า คุณจะไม่ประสบความสำเร็จแน่ล่ะ ถ้าหากคุณล้มเหลวและไม่สามารถลุกขึ้นมาสู้ใหม่ใช่มั้ยล่ะ
และนี่ก็เป็น “วลี” เด็ดของคนที่มักจะไม่ประสบความสำเร็จกันนะจ๊ะ ถ้าเราหลีกเลี่ยงที่จะพูดสิ่งเหล่านี้ รับรองเราจะไม่ถูกปลูกฝังด้วยทัศนคติแย่ๆ ที่มากจากคำพูดเหล่านี้ด้วยแน่นอนจ้า แล้วมาอ่านสารพดีๆ แบบนี้ได้ใหม่กับทาง ScholarShip.in.th นะจ๊ะ
Source: LifeHack