อีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่ ScholarShip.in.th นำมาฝากเป็นเรื่องราวของนักศึกษารุ่นพี่สายช่าง ซึ่งประสบความสำเร็จกันจ้า รายละเอียดจะเป้นยังไงเรามาชมกันเลย
นายยุทธิพงศ์ โอชาพงค์ หรือ บ่าว จบการศึกษาในระดับ ปวช. จากวิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช สาขาช่างก่อสร้าง และจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ซึ่งเป็นรุ่นพี่สายช่าง ที่ได้รับทุนมูลนิธิเอสซีจี โครงการ “เด็กช่าง สร้างชาติ” ปีที่ 2 จ้า
ซึ่งโครงการนี้อยู่ภายใต้ SCG Sharing the Dream มีจำนวนทั้งหมด 250 ทุน มูลค่าทุนละ 20,000บาท ให้กับนักเรียน ม.3สายช่าง ต่อเนื่องจนระดับ ปวส. เลยจ้า ซึ่งไม่มีภาระผูกพันใดๆ เลย
ด้วยวัยเพียง 26 ปี พี่บ่าวของเรานี่แหละ เป็นเจ้าของธุรกิจผลิตและติดตั้ง ออฟฟิค ร้านค้า ร้านกาแฟ และบ้านสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ “สยาม โมบาย โฮม” โดยผลิตและติดตั้งไปแล้วทั่วประเทศกว่าหลายร้อยหลังเลยล่ะครับ!!
และวันนี้พี่เขาจะมาเล่าเกี่ยวกับเคล็ดลับในการเรียนสายช่าง และเรื่องราวความสำเร็จเพื่อเป็นแรงบันดาลใจและแนวทางให้กับน้องๆ ที่กำลังก้าวเข้าสู่การเรียนสายช่างกัน
1. การรู้จักตัวเอง
เราต้องรู้จุดแข็งของตนเอง และทำความเข้าใจว่าเราเหมาะจะเรียนทางด้านไหนสายไหน คุยกับตนเองจนแน่ใจว่าอยากเรียนสายนั้นจริงๆ เมื่อจบมาแล้วอยากทำอะไร แล้วจึงค่อยๆ ตัดสินใจเลือก
2. เลือกสายช่างที่ถนัด
มีสายงานช่างอีกหลายประเภทให้เลือกเรียน ทั้งช่างอิเล็คทรอนิกส์ ช่างเชื่อม ช่างก่อสร้าง ฯลฯ เราก็ต้องหันมาดูตัวเราว่าถนัดสายช่างแบบไหน ชอบสายไหนเป็นพิเศษ
3. เรียนสายช่างสนุกปฎิบัติ
สำหรับบรรยากาศในการเรียนสายช่างนั้นสนุกมากเพราะเน้นการปฏิบัติ ได้ฝึก ได้ลงมือจริง ลองผิด ลองถูก นำมาซึ่งความเข้าใจที่มากขึ้น ซึ่งสายสามัญจะเน้นแต่ในทางทฤษฏีมากเกินไป
4. เรียนรู้และได้รายได้ไปในตัว
สำหรับการเรียน ปวช. แน่นอนครับว่าจะได้ลงมือทำงานจริง เช่น พอปิดเทอมผมก็ได้มีโอกาสมาช่วยงานญาติที่เป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งผมได้ลงมือทำงานจริงเลยครับ โดยอาศัยความรู้พื้นฐานที่ได้เรียนจากในห้องเรียน ผมเลยได้ประโยชน์ทั้งสองทาง คือ ได้เรียนรู้งานจริง และมีรายได้พิเศษระหว่างเรียนอีกด้วย
5. ประโยชน์เรื่องที่ 3
ผลการเรียนดีเกินคาดจากการทำงานช่วงปิดเทอม จากการที่ได้ทำงานสัมผัสหน้างานจริงในช่วงปิดเทอม ส่งผลต่อเนื่องให้ผมมีผลการเรียนที่ดีขึ้นด้วยครับ เพราะเราได้ไปเจอกับประสบการณ์ทำงานจริง!! เพราะการทำงานที่เหมือนเป็นการเรียนทางลัดนั่นเอง ทำให้ผมผงาดมาได้เกรดถึง 3.7 ซึ่งเป็นอันดับต้นๆ ของชั้นเลยทีเดียว
6. จบสายช่าง ต่อมหาวิทยาลัย ก็ยังทัน
พอจบ ปวช. ก็ถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเรียนต่อ ปวส. อีก 2ปี หรือจะต่อมหาวิทยาลัยอีก 4ปี ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเลือกเรียนภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ซึ่งวันเรียนก็เรียนปกติครับ แต่ถ้าวันหยุดจะหาโอกาสทำงานหาประสบการณ์ในทันที
7. เข้ามหาวิทยาลัยปีแรก ต้องเร่งพัฒนาทฤษฎี
เนื่องจากเรียนสายช่าง ทฤษฎีไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ แต่พอมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยก็ต้องเจอทฤษฎีหนักๆ ต้องเข้าร่วมกลุ่มเพื่อนๆ มาช่วยกันติวครับ
8. ภาคปฎิบัติของสายอาชีพไม่สามารถสอนกันได้ในระยะเวลาอันสั้น
พอเรียนมาถึงช่วงปฎิบัติก็จะมีจุดต่างอย่างหนึ่งว่า เพื่อนสายสามัญสามารถสอนทฤษฎีให้เราได้ แต่เรา สายอาชีพไม่สามารถที่จะสอนให้เพื่อนเรียนรู้การปฎิบัติจริงได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ และนี่เป็นข้อดีของการเรียนสายอาชีพมานั่นเอง
9. เรียนและทำงาน
ผมจบมามีความมั่นใจในวิชาชีพ พอมาถึงช่วงปี 3และปี 4ผมทำงานระหว่างเรียนเพิ่มขึ้น มีรายได้พิเศษจากการรับเขียนแบบ ช่วยออกแบบรีสอร์ท ซึ่งก็ช่วยเป็นการฝึกฝนฝีมือช่างไปในตัว พอเรียนจบปี 4 จึงมีความมั่นใจในการทำงานมากๆ เลยครับ
10. สอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
พอเรียนจบผมก็เริ่มงานได้เลยครับ ไปสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม และผมก็เริ่มงานแรกด้วยการเป็นโฟร์แมนให้กับบริษัทรับเหมาก่อสร้างของญาติที่ผมทำงานด้วยช่วงที่ผมเรียนอยู่นั่นเอง
สำหรับเคล็ดลับทั้ง 10 ข้อนี้ถือเป็นการปูพื้นฐานในการเดินไปสู่จุดมุ่งหมายและเป็นตัวอย่างสำหรับน้องๆ ที่เลือกเรียนสายช่างได้ดีทีเดียวเลยนะครับ ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่รับรองว่าถ้าทำได้อนาคตในการทำงานสดใสแน่นอนครับพี่บ่าวคอนเฟิร์ม อิอิ
แล้วมาพบกับข้อมูลดีๆ แบบนี้กันได้ทุกๆ วันกับ ScholarShip.in.th นะจ๊ะ
Source: EduZone , ขอบพระคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์บ้านเมือง