คนส่วนใหญ่เมื่อนึกถึงการทดสอบภาษาอังกฤษก็คงจะหนีไม่พ้น IELTS,TOEFL,TOEIC แต่ก็ยังมีการทดสอบอีกหลายๆอันที่เพื่อนๆอาจจะยังไม่รู้ วันนี้ Scholarship.in.th จะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับ SAT กันครับผม
SAT มีชื่อเต็มว่า Scholastic Assessment Test หรือที่รู้จักทั่วไปว่า “SAT I” เป็นข้อสอบที่ใช้วัดระดับความรู้ความสามารถของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (High School) ที่ต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี โดยนักเรียนที่สอบ SAT I สามารถนำคะแนนที่สอบได้ ไปสมัครเรียนได้ทุกมหาวิทยาลัย การสอบ “SAT I” จะประกอบด้วยข้อสอบ 3 ส่วน คือ Critical Reading, Math และ Writing โดยแต่ละส่วนจะคิดเป็นคะแนนส่วนละ 800 คะแนน รวมทั้งหมด 2400 คะแนน เวลาที่ใช้ในการสอบประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
โดยในการสอบ SAT นั้นสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
1.Verbal Section : เป็นการทดสอบในเรื่องของ Reading, Grammar และ Analytical Reasoning โดยมีรูปแบบของคำถามเป็น Analogies, Sentence Completion และ Critical Reading ข้อสอบออกแนววรรณกรรม วรรณคดีต่างประเทศ ซึ่งผู้สอบจะเจอ Passage ที่ยาวมากๆ คำศัพท์ส่วนใหญ่เป็นศัพท์สูง ศัพท์เฉพาะ และต้องทำข้อสอบแข่งกับเวลา เพราะจะมีระยะเวลาในการสอบแค่ 1 ชั่วโมง 15 นาที ต่อข้อสอบจำนวน 55 ข้อ
2.sat math ทดสอบในเรื่องของ Algebra, Arithmetic และ Geometry โดยมีรูปแบบของคำถามแบบ Quantitative Comparisons (QCs), Regular Math และ Grid-ins เป็นคำถามคณิตศาสตร์ ทั่วๆ ไป ความรู้ประมาณ ม. 3 ระยะเวลาของการสอบคือ 1 ชั่วโมง 15 นาที มีข้อสอบจำนวน 55 ข้อ ข้อสอบมีทั้งแบบตัวเลือกและเติมแบบคำตอบในช่องว่าง
3.sat english เป็นการเขียน essay, grammar (error recognition) และ sentence completion โดยรูปแบบคำถามเป็นแบบปรนัยพร้อมกับการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ (ในส่วนของ Section นี้ ผู้ที่สอบส่วนใหญ่จะไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีที่ต่างประเทศ ส่วนมหาวิทยาลัยในประเทศไทยไม่ค่อยใช้
ข้อสอบ SAT เป็นข้อสอบชุดเดียวกันทั่วโลก และเป็นข้อสอบที่ต้องการวัด speed และดูว่า คุณตอบได้เท่าไหร่ในเวลาจำกัด ซึ่งนักเรียนไทยจะไม่ชินเลยกับการทำข้อสอบที่จับเวลา ซึ่งจะทำให้เรามีเวลาคิดน้อยมากและหากคำนวนผิดแล้วอาจเจอคำตอบใน Choice ซึ่งจะทำให้คะแนนเราติดลบเข้าไปอีก ฉะนั้นหากข้อไหนที่น้องไม่มั่นใจว่าจะถูกไหม เว้นไว้ปลอดภัยกว่า
รายละเอียดเพิ่มเติม
1. การสอบ SAT ใน Part Verbal, Math และ Writing จะมีคะแนน เต็ม Part ละ 800 คะแนน (รวม 2400 คะแนน)
2. การสอบ SAT หากตอบถูกได้คะแนนข้อละ 14.5 คะแนนหากตอบผิดถูกหักคะแนน 3.6 คะแนน
3. ผู้สอบสามารถนำดินสอ 2B + ยางลบ + ปากกา + เครื่องคิดเลข (บางชนิด) เข้าห้องสอบได้
4. ควรแต่งตัวสุภาพเมื่อเข้าสอบ (งดกางเกงยีนส์ กางเกงขาสั้น ผู้หญิงห้ามใส่กางเกง รองเท้าเปิดส้น) ห้ามนำโทรศัพท์มือถือ กระเป๋า เข้าห้องสอบ
5. การสอบ SAT มีค่าสมัครสอบ 91$ (ชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เท่านั้น)
วันนี้ก็ต้องขอลากันไปเพียงเท่านี้ แล้วกลับมาพบกับวาไรตี้ดีๆอัพเดททุกวันกับ Scholarship.in.th กันนะครับ
ที่มา : chulatutor
One Comment
Comments are closed.
[…] ที่มา : chulatutor,Scholarship.in.th […]