สำหรับการเขียนเรซูเม่นั้น เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญเลยก็ว่าได้สำหรับการขอทุนการศึกษา ไม่ว่าใครก็อยากจะใส่หรือกรอกทุกสิ่งอย่างที่คุณเคยทำมาหรืองานทุกอย่างลงไปในเรซูเม่ของตัวเอง เพราะหวังว่ามันจะสามารถสร้างความประทับใจให้ผู้อ่าน
แต่แท้จริงแล้ว การกระทำเช่นนั้นมันทำให้คุณดูเป็นคนไม่มีการจัดการที่ดี แทนที่จะได้รับความประทับใจกลับถูกเมินเฉยซะงั้น วันนี้เราเลยมาแนะนำสิ่งที่ควรเขียนลงในเรซูเม่เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่านมาฝากกันจ้า ว่าแล้วเรามาชมกันได้เลยครับผม
ขั้นที่ 1
เขียนเรซูเม่ของคุณออกมาก่อน (ด้วยคอมพิวเตอร์) โดยเขียน “ทุกอย่าง” เกี่ยวกับตัวคุณลงไป ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม มั่นใจว่าคุณไม่ลืมที่จะเขียนงานเกี่ยวกับการเป็นอาสาสมัคร งานอดิเรก รวมถึงทักษะทุกอย่างที่คุณมีแล้วเซฟไว้ในไฟล์นี้
ขั้นที่ 2
Copy ไฟล์ที่เราเขียนไว้นี้ไปไว้ในเอกสารใหม่ แล้วตั้งชื่อใหม่ โดยเรซูเม่ชุดนี้ จะเป็นขั้นตอนการตัดหรือลดรายละเอียดในเรซูเม่ของคุณลงนั่นเอง
ขั้นที่ 3
ทำการหาข้อมูลเกี่ยวกับนายจ้างของคุณ หรือมหาวิทยาลัยที่คุณอยากเข้าเรียน เพราะมันจะเป็นการสร้างไอเดียให้คุณในการคิดว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ เป็นวิสัยทัศน์ของพวกเขา
ขั้นที่ 4
เขียนคุณสมบัติที่พวกเขาต้องการออกมา นอกจากนี้คุณอาจจะตีความคุณสมบัติเพิ่มเติมได้จากวิสัยทัศน์ต่างๆ ของทั้งบริษัทและมหาวิทยาลัย
ขั้นที่ 5
สร้างใจความสำคัญของเรซูเม่ของคุณ โดยเฉพาะสิ่งที่ตรงกับคุณสมบัติหรือสิ่งที่บริษัทหรือมหาวิทยาลัยต้องการ และเน้นหนักในเรื่องนั้นๆ
ขั้นที่ 6
เน้นเรื่องของ “คุณสมบัติพิเศษ” ให้ชัดเจน ซึ่งนี่เป็นขั้นที่เรื่องของความสามารถพิเศษหรืองานอดิเรกเข้ามามีบทบาท เช่น ถ้าคุณรู้วิธีการทำอนิเมชั่น, สามารถพูดภาษารัสเซีย หรือ มีความสามารถทางการเป็นผู้นำสมัยเป็นโค้ชทีมฟุตบอลที่มหาวิทยาลัย ก็จงแสดงมันออกมา โดยเฉพาะสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่คุณต้องการโดยตรงหรืออ้างอิงถึงได้
ขั้นสุดท้าย
ลบสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องออกให้หมด (ที่ตอนแรกเขียนลงไป) โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่ได้แสดงออกให้เห็นถึงทักษะที่จำเป็นหรือคุณสมบัติที่ไม่สมควรต่างๆ เช่นจะสัครเข้าเรียนสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ หรือทำงานในบริษัทด้านไอที พวกเขาก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าคุณมีทักษะในการเล่นกีฬาอะไรบ้างหรอกนะจ๊ะ
สิ่งที่ควรจำ!!!
– ควรหาบุคคลอื่นมาอ่านเรซูเม่ของคุณอีกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจส่ง
– เขียนเรซูเม่เฉพาะขึ้นมาในแต่ละตำแหน่งที่คุณสมัคร เพราะมันเป็นการทำให้มหาวิทยาลัยหรือบริษัทเห็นถึงความเอาใจใส่และความตั้งใจของคุณ
– เตรียมพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์ เพราะในการสัมภาษณ์มักจะมีการพูดถึงรายละเอียดที่คุณเขียนลงไปในเรซูเม่เสมอ ดังนั้นแล้ว ในระหว่างที่เขียนเรซูเม่ คุณควรจดโน้ตย่อเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการจะพูดในวันสัมภาษณ์ รวมถึงประเด็นสำคัญที่คุณตั้งใจเน้นหนักด้วย
Source: Hotcourse