ในปัจจุบันการใช้ภาษาอังกฤษแทรกในการพูดภาษาของเรานั้นนับวันก็จะมีมากขึ้นไปทุกๆ ทีเลยนะครับ ซึ่งสามารถเห็นได้บ่อยๆ ง่ายๆ เลยก็คือ กดไลค์ นั่นเอง
แต่ทั้งนี้ก็ยังมีอีกหลายคำนะครับที่เป็นภาษาอื่นๆ และยังมีอีกหลายคำเลยล่ะที่เรามักจะใช้ผิดๆ ซึ่งผิดไปจากความหมายของเจ้าของภาษาโดยสิ้นเชิงเลยล่ะ
วันนี้เราเลยนำข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับ 10 คำศัพท์จากภาษาอังกฤษที่จักจะถูกใช้ผิดความหมายจากต้นฉบับ จะมีคำว่าอะไรบ้างมาดูกัน
แจม เช่น ทำอะไรกันอยู่น่ะ ขอแจมด้วยคนสิ
การใช้ในไทย
คนไทยเข้าใจว่า “แจม” คือขอร่วมวงด้วย หรือขอเข้าร่วมด้วย คาดว่ามาจาก jam session ที่นักดนตรีจากหลากหลายชนิดเครื่องดนตรีมารวมตัวกันเล่นดนตรี จึงใช้คำว่าแจมในความหมายนี้นั่นเอง
สำหรับเจ้าของภาษา
jam เมื่อใช้เป็นกริยาหมายถึง บีบ, อัด, ติด, ขัด, แออัด, เบียดเสียด ดังนั้นถ้าต้องการสื่อความหมายแบบในภาษาไทยต้องใช้ join ค่ะ Can I join?
เช็คบิล
การใช้ในไทย
“เช็คบิล” คือการเรียกบริกรมาคิดราคาค่าอาหารและบริการ มาจาก check และ bill
สำหรับเจ้าของภาษา
เวลาเรียกพนักงานมาคิดเงินจะใช้ว่า Check, please. หรือ Bill, please. ค่ะ เลือกใช้แค่คำเดียวพอ จะ “เช็ค” หรือ “บิล” ก็ได้ อย่าใช้รวมกันทีเดียวล่ะ
ไทร์ เช่น เกรดต่ำกว่ากำหนดมา 2 เทอมแล้วเลยโดนไทร์
การใช้ในไทย
เมื่อเรียนมหาวิทยาลัยแล้วเกรดไม่ดีจนถูกไล่ออก เราใช้ว่า “ไทร์” ซึ่งย่อมากจาก “รีไทร์” (retire) นั่นเอง
สำหรับเจ้าของภาษา
retire คือเกษียณอายุครับ ฉะนั้นถ้าเราถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยต้องใช้ว่า expel ค่ะ
ฟิต เช่น เสื้อตัวนี้ฟิตเกินไป
การใช้ในไทย
อันที่จริงฟิตเป็นคำในภาษาไทยจริงๆ ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้ความหมายว่าคับจนรัดรูปหรือแข็งแรง ซึ่งในการใช้ว่าแข็งแรงนั้นมีที่มาจาก fit (แบบ fitness, fit & firm) แต่สำหรับความหมายว่าคับนั้น ห้ามติดไปใช้ว่า fit ด้วยล่ะ
สำหรับเจ้าของภาษา
ถ้าจะบอกว่าเสื้อผ้าคับ ให้ใช้ tight ค่ะ ส่วน fit เมื่อพูดถึงเสื้อผ้าจะแปลว่าพอดีตัว, ไซส์กำลังดี
เฟรชชี่ เช่น สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว ได้เป็นเฟรชชี่ซะที
การใช้ในไทย
เฟรชชี่เป็นการเรียกน้องปี 1 ที่แพร่หลายที่สุดในประเทศไทย
สำหรับเจ้าของภาษา
เด็กปี 1 คือ freshman ส่วนชั้นปีที่ 1 คือ freshman year ค่ะ ถ้าจะบอกใครว่าเราอยู่ปี 1 ก็ใช้ I’m a freshman. ครับ นอกจากนี้ยังหมายรวมถึงรุ่นที่เด็กที่สุดของระดับการศึกษาอื่นด้วย เช่น ม.4 ก็เป็น high school freshman
แฟน
การใช้ในภาษาไทย
ส่วนมากคนไทยใช้คำว่า “แฟน” หมายถึงคนรัก, คนที่คบหาดูใจกันอยู่ แต่ถ้าบอกว่าติดตามผลงานของศิลปินมานานจะใช้ว่า “เป็นแฟนคลับ” ศิลปินคนนั้นคนนี้
สำหรับเจ้าของภาษา
fan นอกจากแปลว่าพัดลมแล้ว ยังหมายถึงผู้ที่ชื่นชอบหรือติดตามผลงาน หมายถึงแฟนคลับนั่นแหละ แต่ถ้าจะบอกว่าใครเป็นแฟนที่เราคบหาอยู่ด้วยเป็นภาษาอังกฤษต้องใช้ว่า boyfriend หรือ girlfriend
เวอร์ หรือโอเวอร์
การใช้ในไทย
เมื่อจะพูดถึงการกระทำที่เกินจริง เราใช้ว่าเวอร์, เว่อร์, เว่อ หรือโอเวอร์ ซึ่งมาจาก over
สำหรับเจ้าของภาษา
ต้องใช้ exaggerate เพื่อบอกว่าทำอะไรเกินจริง (ในบริบทแบบในตัวอย่าง) ส่วน overact จะใช้กับนักแสดงที่แสดงเกินเหตุจนดูไม่สมจริง
อเมริกันแชร์
การใช้ในไทย
อเมริกันแชร์คือใครสั่งอะไรก็จ่ายแค่เท่าที่ตัวเองสั่ง ของใครของมัน
สำหรับเจ้าของภาษา
ไม่มีคำนี้ในภาษาอังกฤษนะคะ เพราะเขาโยนให้ชาวดัตช์อีกต่อหนึ่ง คือ go Dutchครับ -*- แหม โยนกันไปมา
อิน เช่น เมื่อวานดูหนังอินมากจนร้องไห้เลย
การใช้ในไทย
เราใช้ “อิน” เพื่อบอกว่าเรามีอารมณ์ร่วมกับงานศิลปะใดมากๆ ไม่ว่าจะหนังสือ ละคร ภาพยนตร์ เพลง หรือรูปวาด เพื่อบอกว่าเราเข้าถึงผลงานชิ้นนั้นแบบสุดๆ
สำหรับเจ้าของภาษา
ใช้แค่ in เฉยๆ ไม่ได้นะคะ ต้องใช้ into ครับ ถ้าจะบอกว่าอินกับหนังเรื่องนั้นก็ I’m really into that movie.
อินเทรนด์
การใช้ในไทย
อาจจะเพราะต้องการสื่อว่ากำลังอยู่ใน (in) กระแส (trend) จึงใช้กันว่า in trend
สำหรับเจ้าของภาษา
คำว่าอยู่ในกระแส หรือทันสมัย จริงๆ คือ trendy หรือ fashionable ครับผม
ทีนี้เราก็รู้แล้วนะครับว่าในภาษาอังกฤษนั้นมีความหมายแตกต่างออกไป เพื่อนๆ ก็อย่าไปใช้กับฝรั่งนะ อิอิ
Source: DekD