Times Higher Education เผยผลวิเคราะห์สถาบันอุดมศึกษาที่เป็นแหล่งผลิตผู้พิชิตรางวัลโนเบลในศตวรรษนี้มากที่สุด โดยจัดอันดับท็อปเทนเอาไว้ หรือ Top 10 universities for producing Nobel prizewinners
การจะสร้างบุคคลให้ได้รางวัลโนเบลนั้นมหาวิทยาลัยต้องมีองค์ประกอบหลายด้านคือต้องใช้เวลาจัดการที่ดีเกี่ยวกับเสรีภาพทางวิชาการ มีการผลักดันในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ขณะที่ก็ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานการวิจัยระดับโลกและการลงทุนอย่างจริงจังเพื่อดึงดูดและรักษานักวิชาการชั้นหัวกะทิให้ดำเนินผลงานต่อเนื่องไปสู่ความสำเร็จจนกระทั่งชนะเลิศ Nobel prizes
10. Max Planck Society
The Max Planck Society in Germany กับรางวัล Nobel prizeชิ้นล่าสุดเมื่อปีที่เพิ่งผ่านมา โดยผลงานของ Stefan Hall ที่ชนะเลิศทางสาขาเคมีสำหรับการพัฒนา super-resolved fluorescence microscopy ส่วนเคล็ดลับสู่ความสำเร็จของสถาบันนี้ได้รับการเปิดเผยจาก Christina Beck, head of communication at the institution ว่าอยู่ที่ความเข้าใจในสิ่งที่สร้างสรรค์งานวิจัยที่โดดเด่นขึ้นมา รวมไปถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เกื้อกูลให้นักวิทยาศาสตร์ชั้นยอดของเราได้สานต่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
9. Technion Israel Institute of Technology
Technion เป็นสถาบันเพียง 1 ใน 2 แห่งที่ไม่ใช่ของสหรัฐที่ติดท็อป10 คราวนี้ โดยได้ Nobel prizes ในศตวรรษนี้มาแล้ว 3 รางวัล ซึ่งทั้งหมดเป็นในสาขา Chemistry โดยรางวัลชิ้นล่าสุดในปี 2011 เป็นของ Dan Shechtman เกี่ยวกับการค้นพบ quasicrystals, where atoms are ordered over long distances but not in the periodically repeating arrangement of traditional crystals
8. Massachusetts Institute of Technology
นักเศรษฐศาสตร์ของ MIT ที่ได้รับรางวัล Nobel Prize in Economic Sciences ในปี 2010 คือ Peter Diamond
ในด้าน “analysis of markets with search frictions”แต่ส่วนใหญ่แล้วสถาบันได้รางวัลในสาขา Physics
โดยสาขานี้มีเจ้าของรางวัลชื่อ Wolfgang Ketterle และ Franck Wilczek ทำได้ในปี 2001 และ 2004 ตามลำดับ
7. University of California, Santa Barbara
Shuji Nakamura, professor of materials and electrical and computer engineering ที่ University of California, Santa Barbara พิชิตรางวัลโนเบลสาขา Physicsเมื่อปีที่แล้วจากผลงาน efficient blue light-emitting diodes, which has enabled the creation of bright and energy-saving white light sources เขาจดสิทธิบัตรในสหรัฐไว้มากกว่า 200 เรื่องและอีกมากกว่า 300 เรื่องในญี่ปุ่น โดยรวมแล้ว นับตั้งแต่ปี 1998 นักวิชาการของ Santa Barbara ได้รางวัลโนเบลมาแล้ว 6 รางวัล
6. Howard Hughes Medical Institute
ในศตวรรษที่ 21 นี้ Nobel prizewinners ของ Howard Hughes Medical Institute มีจำนวนทั้งสิ้น 9 คน ที่เป็นคนหลังสุด ได้แก่ Eric Betzig ผู้นำกลุ่มวิจัยที่ Janelia Research Campus ได้รางวัลสาขา Chemistry เมื่อปีที่แล้ว จากเรื่อง “development of super-resolved fluorescence microscopy”.
5. University of Chicago
3 ใน 4 ของรางวัลโนเบลที่ University of Chicago พิชิตเป็นในสาขา Economic Sciences โดยEugene Fama และ Lars Peter Hansen ได้รางวัลคู่กันในปี 2013 เกี่ยวกับ“empirical analysis of asset prices”
University of Chicago อยู่อันดับ 11 ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัย รายการ THE World University Rankings
4. Princeton University
ส่วนมากงานวิจัยชั้นนำของ Princeton University นั้นเน้นไปในสาขา Economic Sciences โดยมหาวิทยาลัยพิชิตโนเบลในสาขานี้ในปี 2002,2008 และ 2011 โดยปีล่าสุดเป็นผลงานของ Christopher Sims ที่ทำเรื่อง
“empirical research on cause and effect in the macroeconomy”
3. University of California, Berkeley
University of California, Berkeley คว้า Nobel prizes ในสาขาต่าง ๆ คือ economic sciences, physics และ physiology/medicine นักค้นคว้าวิจัยรายล่าสุดที่ทำชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัยคือ Randy Schekman และ Thomas Sudhof ได้รางวัลด้าน Physiology award ในปี 2013 เป็นการค้นพบ machinery regulating vesicle traffic, a major transport system in our cells
2. Columbia University
Columbia University ได้รางวัลโนเบลครั้งล่าสุดในปี 2008 จากผลงานของ Martin Chalfie ในสาขา Chemistry เป็นเรื่องการค้นพบและการพัฒนา the green fluorescence protein, GFP ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีเจ้าหน้าที่ที่เป็น Nobel laureates ถึง 8 คน
1. Stanford University
เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ที่ผลิต Nobel prizewinners ในศตวรรษนี้ จากผลงาน 7 รางวัลโนเบลในศตวรรษ 21 โดยเฉพาะในสาขา Chemistryนั้น นักวิชาการของStanfordพิชิตรางวัลมาได้ใน 3 ปีที่ผ่านมาติดต่อกัน
Stanford University อยู่อันดับ 4 ในการจัดอันดับ World University Rankings ล่าสุด และอยู่สูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจาก Harvard ในอันดับมหาวิทยาลัยสหรัฐ
ช่วงนี้มีการจัดอันดับเป็นร้อยเป็นพันเว็บไซต์เลยนะครับ มหาวิทยาลัยก็จะคล้ายๆใกล้ๆกัน แต่ยังไม่ใช่มหาวิทยาลัยในไทยอย่างแน่นอนครับ หากน้องๆหรือเพื่อนๆคนใดสนใจศึกษาต่อก็ขอแนะนำเลยครับ ถ้าเลือกให้เหมาะกับตัวเราเองแล้ว เราจะไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน
source: eduzones