เดือนหน้าก็จะเข้าสู่ช่วงวาเลนไทน์กันแล้ว ซึ่งตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์คงอบอวลไปด้วยบรรยากาศของความรัก สำหรับคนมีคู่ แต่สำหรับคนโสด พอเหงาๆ ก็หาหนังฟินๆซักเรื่องมาดูให้แก้เหงา
วันนี้เราจะชวนเพื่อนๆมาฝึกภาษาอังกฤษผ่านการดูหนัง รัก โรเเมนติกกันยังไงหล่ะ นอกจากจะรู้สึกฟินแล้ว ยังได้ฝึกทักษะการฟังอีกด้วย มีเรื่องอะไรที่เเนะนำบ้าง
Pretty Woman (1990)
Pretty Woman หรือ ผู้หญิงบานฉ่ำ ในชื่อภาษาไทย เล่าถึงเรื่องราวของโสเภณี วิเวียน วาร์ด ที่ได้รับการจ้างจากเศรษฐี เอ็ดเวิร์ด ลูอิส เพื่อเข้างานสังคม และทั้งคู่ก็ได้พัฒนาความสัมพันธ์กันจนกลายเป็นความรัก
Notting Hill (1999)
อีกหนึ่งผลงานของ จูเลีย โรเบิร์ต ที่กลายเป็นหนังรักสุดคลาสสิก ว่าด้วยเรื่องราวของ วิลเลี่ยม แทคเกอร์ พ่อม่ายหนุ่มเจ้าของร้านหนังสือในเมืองเล็กๆ ที่บังเอิญได้ต้อนรับดาราสาวระดับโลกอย่างแอนนา สก๊อต ซึ่งทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ความรักของสองคนที่วิถีชีวิตแตกต่างกันราวฟ้ากับดินจะสามารถเป็นจริงได้หรือเป็นเพียงความฝันที่รอเวลาสูญสลายเมื่อลืมตา
Love Actually (2003)
ใครอยากเข้าใจความรักหลากหลายมุมมองต้องไม่พลาดหนังเรื่องนี้ เพราะคุณจะได้เต็มอิ่มไปกับเรื่องราวความรักของผู้คนต่างวิถีชีวิตที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
Eternal Sunshine of the Spotless Mind (2004)
จะเกิดอะไรขึ้นหากเราสามารถเลือกลบความทรงจำที่ผ่านมาได้? เมื่อโจเอลรู้ว่าคลีเม็นไทน์แฟนสาวของเขา ลบความทรงจำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขาและเธอออกจนหมดสิ้น โจเอลจึงติดต่อนักประดิษฐ์อย่าง ดร. โฮเวิร์ด เพื่อลบเธอออกไปจากความทรงจำของเขาบ้าง แต่ในระหว่างที่ลบความทรงจำเขากลับได้พบกับความทรงจำดีๆ มากมายที่เขาและคนรักเคยสร้างร่วมกันมา
50 First Dates (2004)
เมื่อเฮนรี่ ร็อธ สัตวแพทย์สัตว์น้ำขั้วโลกเหนือจอมเจ้าชู้ ตกหลุมรักลูซี่ วิตมอร์ หญิงสาวซึ่งป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมระดับรุนแรง ทุกวันที่ตื่นขึ้นมาเธอจะลืมเรื่องราวของวันก่อนหน้าไปจนหมดสิ้น เฮนรี่จึงต้องเริ่มจีบลูซี่ใหม่ในทุกๆ วันที่เจอกัน
Hitch (2005)
อเล็กซ์ ฮิตเช่นส์ ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกเดท เจ้าของสถิติสร้างความสำเร็จในการจีบหญิงให้ลูกค้าชายหนุ่มมากที่สุดในนิวยอร์ก แต่ในขณะที่งานเดท ด็อกเตอร์กำลังไปได้สวย ชีวิตจริงของเขากลับเป็นคนที่หมดศรัทธาในรักแท้ เพราะยังคงฝังใจจากการถูกหักอกสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขาจึงมองความรักเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ล้วนๆ จนกระทั่งฮิตช์ได้พบซาร่าคอลัมนิสต์ข่าวซุบซิบชื่อดัง ที่มีมุมมองต่อความรักแบบเดียวกัน
500 Days of Summer (2009)
ชายหนุ่มผู้เชื่อว่าความรักคือพรหมลิขิต เขาเป็นนักเขียนในบริษัทผลิตการ์ดอวยพรแห่งหนึ่ง ที่ตกหลุมรักแรกพบ ซัมเมอร์ ฟินน์ หญิงสาวผู้เชื่อว่าความรักคือเรื่องเพ้อฝัน จากนั้นพวกเขาจึงค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องโดยตัดสลับไปมาในช่วง 500 วันที่ทั้งคู่รู้จักกันแบบไม่เรียงลำดับเวลา เหมือนเป็นภาพสะท้อนความทรงจำของคนเรา ที่มักนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเป็นเรื่องๆ แบบไม่เรียงลำดับเช่นกัน
The Proposal (2009)
เมื่อ มาร์กาเรต บรรณาธิการสาวจอมเผด็จการกำลังจะถูกเนรเทศกลับประเทศแคนาดา เพราะใบอนุญาตทำงานในอเมริกากำลังจะหมดอายุลง เธอจึงขอร้องกึ่งบังคับให้แอนดรูว์ ผู้ช่วยหนุ่มหล่อที่ถูกเธอกดขี่มาตลอดตั้งแต่ทำงานร่วมกันมาแต่งงานกับเธอแบบสายฟ้าแลบ แอนดรูว์ยอมตกลงโดยมีเงื่อนไขว่ามาร์กาเรตต้องช่วยดันให้เขาเลื่อนขั้นเป็นบรรณาธิการ และต้องเดินทางไปอลาสกาเพื่อเผชิญหน้ากับครอบครัวสุดยุ่งเหยิงของแอนดรูว์
Silver Linings Playbook (2012)
ว่าด้วยเรื่องราวของแพทริก ครูสอนประวัติศาสตร์เข้าไปอยู่ในสถานบำบัดจิตนานถึงแปดเดือน แต่เมื่อกลับมาอยู่บ้านฝันร้ายในวันเก่าก็ยังตามมาหลอกหลอน แม้เขาจะพยายามกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติแล้วก็ตาม จุดเปลี่ยนในชีวิตของแพทริกเริ่มขึ้น เมื่อเขาได้พบกับทิฟฟานี่ หญิงสาวซึ่งเป็นโรคอารมณ์สองขั้ว อารมณ์แปรปรวนง่าย หรือ “ไบโพลาร์ ดิสออร์เดอร์” (Bipolar Disorder) เช่นเดียวกับเขา
About Time (2013)
เมื่อ ทิม หนุ่มวัย 21 ปี ได้ค้นพบเรื่องเหลือเชื่อว่าผู้ชายในตระกูลเขาสามารถเดินทางย้อนเวลาได้ ชายหนุ่มจึงใช้ความสามารถนี้เดินทางกลับไปในอดีต เพื่อจีบสาวสวยน่ารักอย่างแมรี่ ซึ่งในที่สุดทั้งคู่ก็ได้ลงเอยกัน และตลอดระยะเวลาของความสัมพันธ์ ทิมก็มักจะใช้การย้อนเวลาแก้ไขปัญหาในชีวิตคู่อยู่เรื่อยๆ แต่วันหนึ่งเขากลับได้พบว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เพราะการกลับย้อนเวลาไปเปลี่ยนแปลงบางอย่างย่อมส่งผลกระทบถึงอีกเหตุการณ์หนึ่งไปโดยปริยาย
แค่อ่านเรื่องย่อก็ฟินสุดๆแล้ว เพื่อนๆอย่าลืมฝึกฟังภาษาอังกฤษในหนังด้วยน้า
Source: hotcourses