ทุกวันนี้กิจกรรมระหว่างวันของใครหลายคนอาจเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อม งานที่ทำ บ้านที่อยู่ หรือแม้แต่ความชอบส่วนตัว
ดูผิวเผิน ไม่ว่าจะเป็นการนอนกลางวัน การเล่นวิดีโอเกม หรือแม้แต่การเคี้ยวหมากฝรั่งก็เป็นเพียงแค่กิจกรรมธรรมดา แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วมันมีส่วนช่วยทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจ
ลองมาดูกันว่ามีนิสัยอะไรบ้างที่เข้าข่ายบริหารสุขภาพให้ดีขึ้น
1. การเคี้ยวหมากฝรั่ง: ช่วยลดระดับความเครียด อีกทั้งยังเพิ่มหน่วยความจำ
เห็นได้ชัดว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งในขณะที่อ่านมีผลกระทบเชิงบวกต่อร่างกายของเรา ในหมู่พวกเขามันช่วยเพิ่มหน่วยความจำความสนใจความตื่นตัวและการตัดสินใจ
การศึกษาแสดงว่า คนที่เคี้ยวหมากฝรั่งในระหว่างการทดสอบ สามารถทำการทดสอบได้ดีกว่าถึง 24% สำหรับการทดสอบหน่วยความจำระยะสั้นและดีขึ้น 36% สำหรับการทดสอบหน่วยความจำระยะยาว การศึกษาอื่นพิสูจน์ว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งยังช่วยลดความรู้สึกของความเครียดเพราะจะช่วยลดระดับของฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งมีส่วนในการพัฒนาปฏิกิริยาของความเครียด
https://www.instagram.com/p/Bvu9bh2H5t6/?utm_source=ig_embed
2. การเล่นเกม: เพิ่มความสามารถในการเรียนรู้และการตัดสินใจ
แอคชัน ภาพ แสง สี เสียง ช่วยให้ระบบการรับข้อมูลทางประสาทสัมผัสของคนเราดีขึ้น และช่วยให้การประมวลผลเพื่อตอบสนองเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้นด้วย นอกจากนี้วิดีโอเกมแบบที่ต้องวางกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ ยังช่วยเพิ่มความสามารถของสมองและความสามารถในการเรียนรู้ได้ด้วย
3. การสบถ : ช่วยลดความเครียด และเพิ่มความทนทานต่อความเจ็บปวด
แม้ว่าการสบถจะดูเป็นมารยาทที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่การศึกษาจากหลายที่แสดงให้เห็นว่าการสบถสามารถลดความเครียดและช่วยขจัดความยุ่งยากได้
นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความทนทานต่อความเจ็บปวด ตามการศึกษาที่ดำเนินการโดยคณะจิตวิทยาของ Keele University การสบถเป็นการปลดปล่อยทางอารมณ์ แต่ถ้าคุณใช้มากเกินไป มันจะส่งผลเสียต่อความผูกพันทางอารมณ์และกลายเป็นนิสัยที่ไม่ดีโดยไม่จำเป็น
4. ความยุ่งเหยิง : ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์
แม้ว่าการปล่อยให้ห้องรกรุงรัง หรือเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงจะเป็นลักษณะที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่จากการทำลองโดยKathleen Vohs และเพื่อนร่วมงานของเธอที่ University of Minnesota School of Management พบว่า ความยุ่งเหยิงแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ซ่อนอยู่ภายใน
5. นอนตื่นสาย : ลดอาการหัวใจวายและอัตราการเต้นที่ไม่เป็นจังหวะ
แม้หลายคนจะมองว่าการนอนตื่นสายเป็นเรื่องของคนขี้เกียจ แต่ความจริงแล้วมันเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ จากการศึกษา ผู้ที่ตื่นเร็วเกินไปสามารถพัฒนาไปสู่ความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงและมีแนวโน้มที่จะพบกับการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง, หัวใจวาย, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหลอดเลือดสมองและความดันโลหิตสูง ดังนั้นอย่าลังเลที่จะตามใจร่างกายของคุณสักหน่อย ด้วยการนอนต่อหากไม่มีเรื่องด่วนอะไร
6. การนินทา : ช่วยเพิ่มมิตรภาพและบรรเทาความเครียด
แม้ว่าการนินทาจะเป็นนิสัยที่ไม่น่าก แต่จากการวิจัยทางจิตวิทยาพบว่า การนินทาจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนให้เติบโตขึ้น ทั้งยังช่วยลดระดับความเครียด ความวิตกกังวล อีกทั้งยังช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางสังคมได้มากยิ่งขึ้นด้วย
7. การเรอ : ช่วยบรรเทาอาการ
การเรออาจฟังดูน่าขยะแขยง แต่มันเป็นเรื่องปกติของกระบวนการย่อยอาหาร การเรอจะช่วยกำจัดก๊าซที่ไม่พึงประสงค์ที่สะสมอยู่ในกระเพาะอาหาร และช่วยรักษาสุขภาพกระเพาะอาหารให้ดีขึ้น
8. ไม่อาบน้ำ : ช่วยทำให้ผิวนุ่มและเก็บรักษาแบคทีเรียที่ดี
การอาบน้ำทุกวันโดยเฉพาะกับน้ำร้อนสามารถทำให้ผิวแห้งและทำให้เกิดริ้วรอยได้ อีกทั้งการอาบน้ำด้วยสบู่จะทำลายแบคทีเรียทั้งหมด รวมถึงแบคทีเรียที่ดีด้วย ดังนั้น การอาบน้ำให้น้อยครั้งจะช่วยให้ผิวของเราแข็งแรงได้มากขึ้น
9. การใช้โซเชียลมีเดีย: สนับสนุนด้านอารมณ์ และทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับสังคม
การใช้โซเชียลมีเดียช่วยให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลง ทั้งยังช่วยสนับสนุนความรู้สึกของคุณในหลายแง่มุมได้ นอกจากนี้ มันยังเป็นช่องทางสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างไม่รู้จบ
10. การอาบน้ำเย็น: ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและลดน้ำหนัก
น้ำเย็นช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ทำให้ระดับกรดยูริคลดลงและเพิ่มระดับกลูตาไธโอนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้สารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ทำงานในระดับที่เหมาะสม
นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันโลหิต ล้างหลอดเลือดแดงที่ถูกบล็อก และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของเรา อีกทั้งการอาบน้ำจากฝักบัวสามารถช่วยลดน้ำหนักและทำให้เผาผลาญไขมันได้ดีขึ้นด้วย
แม้ว่าบางอย่างจะดูไม่น่าเห็นด้วยสักหน่อย แต่มันอาจช่วยให้สุขภาพของคุณแข็งแรงขึ้นได้จริงๆ นะ ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับตารางชีวิต รวมถึงการนำไปประยุกต์ใช้แล้วล่ะ
ที่มา: brightside