ปัจจัยหลักอย่างแรกในการเลือกประกอบอาชีพคือ “รายได้” แต่ด้วยเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนไปมาและการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร จึงทำให้ทางเลือกเหลือน้อยกว่าที่เคยวางแผนไว้
หากใครที่กำลังคิดจะเปลี่ยนงาน มองหาความท้าทายและการผจญภัยแปลกใหม่ อาจจะลองเอาจากรายการทั้ง 11 อาชีพที่เรานำเสนอในบทความนี้ไปพิจารณา แต่แนะนำให้คิดทบไปทวนมาให้ดีก่อนล่ะ เพราะถึงแม้บางงานจะฟังดูตื่นเต้นเร้าใจ และรายได้งาม แต่มันก็มาพร้อมกับอันตรายเสี่ยงตายต่อชีวิต
11. รีดพิษงู
มีหน้าที่รีดพิษงู (บางชนิด) ใส่ในภาชนะพลาสติก พิษของงูสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายทาง สำคัญที่สุดก็จะเกี่ยวข้องกับงานวิจัยทางการแพทย์เพื่อทำการผลิต ‘เซรุ่มต้านพิษงู’
อย่างไรก็ตาม แม้จะปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัย แต่การรีดพิษแต่ละครั้งนั้นเสี่ยงต่ออันตรายสูง และค่าจ้างสำหรับผู้รีดพิษแตไม่ถูกกัดอยู่ในอัตราค่อนข้างต่ำ
เงินเดือนเฉลี่ยปีละ $30,000 (ประมาณ 976,000 บาท)
10. คนงานก่อสร้าง
แม้ว่าอุปกรณ์ในการทำงานจะมีความปลอดภัย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความผิดพลาดจะเกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งบางครั้งคนงานก็ต้องเอาเครื่องมือหนักๆ และทำงานอยู่บนที่สูง อันตรายอีกอย่างหนึ่งมาจากคานเหล็กหรือผนังที่ยุบตัวลงทับคนงานได้
เงินเดือนเฉลี่ยปีละ $31,000 – $70,000 (ประมาณ 1,000,000 – 2,277,000 ล้านบาท)
9. พนักงานส่งของ
แปลกใจล่ะสิว่าทำไมพนักงานส่งของถึงจัดอยู่ในอาชีพเสี่ยงตายที่สุดได้ เหตุผลหลักๆ เลยมาจากความเสี่ยงที่จะถูกปล้น ขู่กรรโชกทรัพย์ หรือเป็นเหยื่อของอาชญากร เช่นไปส่งพิซซ่าในงานปาร์ตี้ที่มีแต่คนเมา หรือส่งพัสดุให้คนที่อยู่ในอารมณ์ไม่ปกติ
เงินเดือนเฉลี่ยปีละ $27,000 to $35,000 (ประมาณ 878,000 – 1,138,000 ล้านบาท)
8. ขี่วัวพยศ
อาชีพนี้ได้รับความนิยมในช่วงปลายปี 90 เนื่องจากจำนวนเงินสดมหาศาสที่จะได้รับกับการขี่วัว 8 วินาทีไปรอบๆ ในความเป็นจริงเม็ดเงินอาจไม่คุ้มกับผลที่ตามมา มีตัวเลขที่แสดงถึงการได้รับบาดเจ็บของผู้ขี่ทุก 15 รอบ ทั้งจากการกระแทกและกระดูกหัก
รายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ $107,000 (ประมาณ 3,480,000 ล้านบาท)
7. มัคคุเทศก์ปีนเขา
การพิชิตยอดเขาเป็นความฝันของใครหลายคน และสำหรับอาชีพนี้ไม่เพียงแต่ต้องนำทาง ยังรวมถึงการต้องหอบหิ้วอุปกรณ์หนักๆ หรือเสบียงอาหาร เป็นทั้งคนเสี่ยงภัยคนแรกและรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของคนอื่นๆ ด้วย
รายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ $70,000 (ประมาณ 2,270,000 ล้านบาท)
6. ผู้ผลิตไมโครชิพ
สารอันตรายบางอย่าง เช่น สารหนูที่ใช้ในการผลิตชิพคอมพิวเตอร์ อาจไม่ได้ส่งผลในทันทีทันใด แต่จะมีผลร้ายแรงในระยะยาว ได้แก่ การแท้งบุตร ความบกพร่องเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจ และโรคมะเร็ง
รายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ $61,000 (ประมาณ 1,980,000 ล้านบาท)
5. นักข่าวในสนามรบ
การเป็นผู้ส่งสาส์นถึงความเป็นจริงในสงครามให้โลกรู้มีความสำคัญไม่แพ้อาชีพแพทย์เลย แต่ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับอันตรายรายล้อมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการลักพาตัว การทรมาน แม้แต่การเสียชีวิต ซึ่งเมื่อคุณอยู่ ณ ที่นั้นไม่ได้ถือว่าคุณเป็นนักข่าวแต่เป็นศัตรู
รายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ $36,000 (ประมาณ 1,170,000 บาท)
4. ขุดเจาะน้ำมัน
การทำงานกับเรือขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง หมายถึงการทำงานกับสารที่ติดไฟได้ง่ายที่สุดในโลก บางครั้งต้องทำงานถึง 16 ชั่วโมง ล่วงเลยไปจนถึงหนึ่งวันหรือสองวันโดยไม่ได้หลับนอนเลยก็มี การระเบิดของน้ำมัน การจมน้ำ และร่างกายอาจถูกดูดเข้าไปในเครื่องจักร นำมาซึ่งสาเหตุการตาย
รายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ $70,000 – $140,000 (ประมาณ 2,270,000 – 4,500,000 ล้านบาท)
3. นักล่าจระเข้
ศิลปะการแสดงที่ต้องเล่นกับขากรรไกรของจระเข้ เป็นการเสี่ยงชีวิตไม่ว่าเป็นการเล่นกับฟันแหลมคม ที่ส่วนตัวหรือส่วนหาง แหย่เล่นอย่างบ้าบอ ซึ่งไม่แน่เสมอไปที่จระเข้จะนอนนิ่งเฉยๆ ให้คนมากวนโทสะ หากมันเคลื่อนไหวและโต้อตอบล่ะก็…ไม่อยากจะนึกสภาพเลย
รายได้เฉลี่ยต่อปี ไม่ทราบแน่ชัด แต่น่าจะอยู่ที่ประมาณ $8/ชั่วโมง (ประมาณ 260 บาท)
2. คนตัดไม้
อุตสาหกรรมการตัดไม้เป็นหนึ่งในงานที่อันตรายที่สุด เนื่องจากมีแนวโน้มอัตราการเสียชีวิตกว่างานอื่นๆ ถึง 20 เท่า และต้องรับมือกับเครื่องจักรที่มีน้ำหนักมากในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังมีความผิดพลาดของอุปกรณ์ และต้นไม้ที่ล้มมาทับคนงาน
รายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ $36,000 to $41,000 (ประมาณ 1,171,000 – 1,300,000 ล้านบาท)
1. ชาวประมง (นักจับปูอลาสก้า)
คงเคยจินตนาการล่ะสิว่าอาชีพชาวประมงคงได้อยู่กับความสงบมองผืนน้ำกับฟ้ากว้าง ทว่าในความเป็นจริงถูกจัดอยู่ในอาชีพที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากที่สุด ทั้งการต้องเผชิญกับความเลวร้ายของสภาพอากาศอย่างคาดไม่ถึง หรือฟันเฟืองที่ชำรุด และอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับการขนส่ง
รายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ $30,000 (ประมาณ 975,000 บาท)
ที่มา brightside.me