การใช้สำนวนในการพูดคุยหรือการเขียน บ่งบอกถึงการหลากหลายในการใช้คำเพื่อสื่อสาร ซึ่งรูปแบบของสำนวนนั้นจะแตกต่างจากความหมายจริงดดยสิ้นเชิง คลับคล้ายคลับคลากับสำนวนไทย
ซึ่งคาดว่าในภาษาอังกฤษมีสำนวนที่ใช้กันอย่างน้อย 25,000 คำ และในบทความนี้เป็นสำนวนที่ใช้กันทั่วไปทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ มาจดและนำไปใช้กันเลย
1. Up in the air
แปลว่า บางสิ่งบางอย่างที่ยังแก้ไม่ตก ทำไม่เสร็จ ยังตอบไม่ได้ มักใช้ในการกล่าวถึงแผนการหรือการตัดสินใจที่ยังไม่แน่ใจ
ตัวอย่าง “I think I can do it quickly, but the exact schedule is still up in the air.” ฉันคิดว่าฉันทำได้ไวนะ แต่ตารางเวลาที่แน่นอนยังไม่สามารถบอกได้
2. Hit the books
แปลว่า ติวหนังสืออย่างหนัก ตั้งใจเรียน
ตัวอย่าง “They go to the beach when they should be hitting the books and then they wonder why they get bad grades.” พวกเขาไปเที่ยวชายหาดกันทั้งที่ควรจะติวหนังสือ ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงได้คะแนนไม่ดี
3. Hit the sack
หมายถึงการเข้านอน ซึ่งสามารถใช้คำว่า Hit the hay ก็ได้ ความหมายเหมือนกัน
ตัวอย่าง “A soldier gets tired feet and is eager to hit the sack.” นายทหารที่เหนื่อยล้าและกระตือรือร้นที่จะเข้านอน “Time to hit the hay” ได้เวลานอน
4. Twist someone’s arm
หมายถึงการโน้มน้าวใจให้ทำบางสิ่ง สำนวนนี้ถ้าอยู่ในรูปประโยค twisted your arm คนๆ นั้นทำสำเร็จที่สามารถโน้มน้าวใจให้เราทำสิ่งไม่อยากทำ
ตัวอย่าง “Uhm, you’ve twisted my arm. Ok John, I’ll go with you” คุณหว่านล้อนฉันสำเร็จ ตกลงค่ะจอห์น ฉันจะไปกับคุณ
5. Stab someone in the back
แปลว่า แทงข้างหลัง ทรยศ หักหลัง
ตัวอย่าง “He was stabbed in the back by his friends.” เขาถูกเพื่อนหักหลัง
6. Lose touch
แปลว่า ไม่คุ้นเคยกับใครบางคน หรือทักษะในการทำบางสิ่งบางอย่างที่ตอนนี้ทำไม่ได้ นอกนี้ยังหมายถึงไม่มีความสามารถในการสื่อสาร หรือการติดต่อกับคนอื่น
ตัวอย่าง “Suddenly, friends found me again that I had lost touch with years ago” ทันใดนั้นเพื่อนๆ ก็ได้เจอฉันอีกครั้ง หลังจากขาดการติดต่อไปหลายปี
7. Sit tight
หมายถึงการรอคอยอย่างอดทน ใจเย็นๆ เข้าไว
ตัวอย่าง “I’ll be back in a few minutes, so sit tight while I go find her.” ผมจะกลับมาในไม่ช้า ดังนั้นนั่งรออย่างใจเย็นในขณะที่ผมไปตามหาเธอ
8. Pitch in
แปลว่าให้ความช่วยเหลือ มีส่วนร่วม
ตัวอย่าง “If we all pitch in, we can raise enough money for the renovation of the church.” ถ้าพวกเราทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน เราก็สามารถหาเงินได้มากพอสำหรับการปรับปรุงโบสถ์
9. Pull someone’s leg
แปลว่าหยอกล้อ แกล้งเล่น
ตัวอย่าง “I hadn’t pulled Ms Jane’s leg for any of that stuff, she had just handed it to me on a platter, and that wasn’t my fault.” ฉันไม่ได้แกล้งคุณเจนสำหรับสิ่งของอะไรก็ตาม เธอเพิ่งมอบแผ่นเสียงให้ฉันและไม่ใช่ความผิดของฉันเลย
10. Face the music
แปลว่ายอมรับผิด ยอมรับความจริง
ตัวอย่าง “He failed the exam as he was so lazy. So he’s going to have to face the music” เขาสอบตกเพราะขี้เกียจ ดังนั้นเขาก็ต้องยอมรับความจริง
11. On the ball
แปลว่าตื่นตัว กระตือรือร้น
ตัวอย่าง “If I had been more on the ball I would have asked when he called me” ถ้าฉันตื่นตัวกว่านี้อีกสักหน่อย ฉันจะถามเขาเมื่อเขาโทรมา
12. Rule of thumb
แปลว่ากฏที่วางไว้อย่างง่ายๆ หยาบๆ
ตัวอย่าง “The usual rule of thumb says that to calculate when an investment will double, divide 70 by the interest rate.” กฏเกณฑ์ง่ายๆ กล่าวว่าในการคำนวณเมื่อลงทุนจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ให้แบ่งเป้น 70 ตามอัตราดอกเบี้ย
13. Ring a bell
แปลว่าเคยได้ยิน คุ้นๆ
ตัวอย่าง “His face rings a bell. I wonder if I know him from somewhere.” เขาดูคุ้นๆ นะ สงสัยว่าฉันเคยเจอเขาที่ไหนสักที่
14. Under the weather
แปลว่ารู้สึกไม่ค่อยสบาย หรือรุ้สึกไม่ดี
ตัวอย่าง “I’m sorry, I feel a bit under the weather, I think I cannot join the party tonight” ขอโทษนะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย คิดว่าคืนนี้คงไปปาร์ตี้ไม่ได้
15. Blow off steam
แปลว่า พูดเสียงดังโวยวาย ประมาณว่าต้องการระบายอารมณ์
ตัวอย่าง “Don’t take it personally when he shouts like that. He’s just blowing off steam” อย่าเอาเรื่องเลยที่เขาตะโดนอย่างนั้น เขาแค่ระบายอารมณ์
ที่มา www.fluentland.com