ตกบ่ายทีไรพลังงานที่เคยมีก็ถดถอย หนังท้องตึง หนังตาหย่อน ทำให้อยากรู้หลับตาฟุบลงกับโต๊ะทำงานมากกว่าหยิบเอกสารมาพินิจพิจารณา ซึ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน นอกจากฤทธิ์ทางคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นคามรู้สึกได้แล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ที่น่าสนใจอีก
เว็บไซต์ GOBankingRates ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญหลายคนในด้านสุขภาพและความงามเพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดในการรู้สึกมีพลังมากขึ้นในที่ทำงาน ดังข้อมูลตามด้านล่างนี้
1. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยน้ำเลมอน
ไลฟ์โค้ช Tanya Otterstein-Liehs กล่าวว่า ก่อนที่จะรับประทานมื้อเช้าหรือดื่มกาแฟถ้วยแรกให้เริ่มด้วยน้ำมะนาวอุ่นๆ 1 แก้วขนาด 16 ออนซ์ เป็นวิธีในการช่วยล้างสารพิษใดๆ ก็ตามที่ทำให้รู้สึกเซืองซึม เป็นการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยความสดใส
2. อย่ามองข้ามมื้อเช้า
Lynne Wadsworth โค้ชผู้ได้รับใบรับรองคณะกรรมการสุขภาพแบบองค์รวมกล่าวว่า ร่างกายของคุณผ่านการพักผ่อนมาหลายชั่วโมง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้พลังงานในรูปแบบของคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนสำหรับตอนเช้า
3. ทานวิตามิน
Dr. Christopher Calapai นักโภชนบำบัดและผู้ประกอบวิชาชีพเวชศาสตร์ครอบครัวที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการกล่าวว่า วิตามินรวมเป็นสารทดแทนที่ดีเยี่ยมในกรณีที่ร่างกายอาจขาดสารอาหาร วิตามินที่ดีที่สุดสำหรับกระตุ้นพลังงาน ได้แก่ วิตามิน B12 วิตามินซี แมกนีเซียม กรดโฟลิก เป็นอาหารเสริมที่สามารถช่วยให้เอาชนะอาหารเมื่อยล้าได้
4. มีตารางออกกำลังกายในแต่ละวัน
เมื่อความล้าอ่อนเพลียมาเยือนหลายคนมักไม่คิดถึงการออกกำลังกาย ซึ่งจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยจอร์เจียพบว่า การออกกำลังกายแบบเบาๆ เป็นประจำสามารถลดความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี
5. นั่งตัวตรงขณะทำงาน
ท่านั่งก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการกระตุ้นพลังในการทำงานเช่นกัน Amanda Sterczyk เทรนเนอร์ส่วนตัวที่ได้รับการรับรองจาก ACSM กล่าวว่า การนั่งหลังโค้งเป็นการบีบอัดอวัยวะภายในรวมทั้งปอดด้วย เพราะเมื่อไม่สามารถหายใจลึกๆ ได้ ร่างกายก็จะไม่สามารถสูบฉีกออกซิเจนและเลือดไปยังสมองรวมทั้งส่วนอื่นๆ ของร่างกาย การนั่งหลังค่อมทำให้เกิดภาวะสมองตื้อ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อระดับพลังงานของคุณ
6. ฝึกลมหายใจ
Amber-Lee Lyons โค้ชผู้เชี่ยวชาญด้านการทำสมาธิ แนะนำว่า เมื่อศีรษะก้มต่ำลงและกำลังเมามันกับการทำงาน ลมหายใจจะตื้นๆ ทำให้เกิดความวิตกกังวล ดังนั้นให้ฝึกลมหายใจเข้า 4 ครั้ง หายใจออกอีก 5 ครั้ง พร้อมจินจนาการไปพลางๆ ว่ากำลังจิบมาการิต้าอยู่บนเกาะที่ลมพัดเย็นสบาย
7. เคลื่อนไหร่างกายสม่ำเสมอ
วิธีง่ายๆ ที่จะทำให้ร่างกายยืดหยุ่นคือการเดินเล่นในช่วงพักกลางวัน นอกจากนี้ให้หมั่นลุกออกจากโต๊ะทำงานเพื่อยืดกล้ามเนื้อทุกๆ ชั่วโมง
8. พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของคุณ
Cederberg กล่าวว่าเมื่อเราได้พูดคุยมีปฏิสัมพันธ์ทางสัมงคมกับคนที่เราชอบ ร่างกายจะปล่อยสารอ๊อกซิโตซิน ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
9. ยืนหรือเดินคุยงานบ้าง
สามารถเพิ่มอีกช่องทางการออกกำลังกายด้วยการทำงานได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นยืนขณะคุยโทรศัพท์ เดินข้ามแผนกเพื่อไปส่งเอกสารหรือมอบหมายงานแทนการใช้อีเมลล์
10. ออกไปนอกออฟฟิศ 2 ครั้งต่อวัน
Rojas กล่าวว่าการออกไปข้างนอก 10 นาทีอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน ช่วยสร้างฮอร์โมนในเชิงบวกเป็นการกระตุ้นพลังงานอีกทางหนึ่ง รวมถึงการออกไปรับแสงแดดก็เป็นวิธีผ่อนคลายสร้างความสุขให้ร่างกายโดยไม่ต้องเสียเงิน
11. ชาร์จพลังด้วยการงีบ
หนึ่งในวิธีที่ทำให้ร่างกายตื่นตัวขณะทำงานคือการงีบหลับสักเล็กน้อย การงีบช่วยให้รีเซ็ตพลังงานทั้งร่างกายและจิตใจ ดังนั้นลองงีบสัก 5-10 นาทีจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
12. ทำสมาธิ
การทำสมาธิเป็นอีกวิธีหนึ่งในการเพิ่มพลังงานในการทำงานของคุณในช่วงเวลาพักและยังเป็นวิธีที่ไม่ต้องเสียเงินในการลดความเครียด และจากการศึกษาในมหาวิทยาลัย Waterloo ในปี 2017 พบว่าการฝึกสมาธิเพียง 25 นาทีต่อวันสามารถเพิ่มระดับพลังงานได้
13. อย่ากินเยอะเกินไปในช่วงกลางวัน
ร่างกายของเราต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการย่อยอาหารทั้งหมดดังนั้นถ้าคุณกินอาหารน้อยลงร่างกายก็สามารถแบ่งเวลาไปใช้ส่วนอื่นๆ ได้
14. ตระหนักถึงสิ่งที่คุณดื่มระหว่างวัน
การดื่มกาแฟอาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดฝในการตื่นตัวขณะทำงาน Wadsworth กล่าวว่าพยายามหลีกเลี่ยงกาแฟ ในขณะที่คุณคิดว่าคาเฟอีนช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่กระนั้นมันก็เป็นหลังงานที่ว่างเปล่า ไดเอทโค้กก็เช่นกันที่ควรหลีกเลี่ยง
15. ทานของว่าง
ขนมขบเคี้ยวเป็นตัวกระตุ้นในการทำงาน แต่อาหารที่มีไขมันจะทำให้ร่างกายรู้สึกเซื่องซึม Koren จึงแนะนำให้นำผลไม้หรือผักดิบไปทานระหว่างวัน เป็นการกระตุ้นร่างกายให้สดชื่นได้
ที่มา www.gobankingrates.com