ว่ากันว่าภาษาอังกฤษเต็มไปศัพท์ที่เกิดมาจากความผิดพลาด ล้วนมีที่มาที่ไปต่างกัน อีกทั้งในแต่ละยุคสมัยก็มีคำที่เลิกใช้ไปแล้วเพื่อปรับให้เข้ากับโลกยุคใหม่ มาดูกันสิว่าจะมีคำไหนบ้างที่เกิดจากความไม่ตั้งใจของคนยุคก่อน
1. Apron
ย้อนกลับไปในยุคกลาง ชาวฝรั่งเศสเรียกผ้ากันเปื้อนนี้ว่า naperon แต่เมื่อผู้พูดภาษาอังกฤษใช้คำนี้ก็เกิดการผสมผสานและเพี้ยนไปเป็น “Apron”
2. Algorithm
ต้นฉบับภาษาละตินยุคดั้งเดิมของคำนี้คือ algorismus ถูกตั้งชื่อตามนักคณิตศาสตร์ชาวอาหรับ แต่คำนี้เป็นเพียงคำแปลที่ไม่ถูกต้องจากนามสกลุของเขาซึ่งก็คือ al-Khwarizmi
3. Sneeze
ในตอนแรก Sneeze สะกดด้วย F ไม่ใช่ S-as ซึ่งจะกลายเป็น Fneze คนมักเข้าใจผิดว่าตัวพิมพ์เล็ก f เป็นแบบสมัยเก่า และในที่สุดในที่สุดการสะกดผิดก็กลายเป็นบรรทัดฐานที่ใช้จนถึงปัจจุบัน
4. Squeeze
ในภาษาอังกฤษเดิมเป็นคำว่า “queeze” แต่เพิ่มตัวพิมพ์ใหญ่ S เข้าไป ด้วยเหตุผลอาจจะเป็นเพราะความคล้ายคลึงกับคำอื่นๆ ที่ขึ้นต้นด้ยวย “squ-” เช่น squash และ squat
5. Pea
ในภาษาอังกฤษยุคกลางแต่เดิมเรียกคำนี้ว่า pease ซึ่งเนื่องจากคำว่า S ถูกตีความเป็นพหูพจน์ จึงทำให้นักวิชาการสร้างเป็นคำเอกพจน์ใหม่ในศตวรรษที่ 17
6. Nickname
ชื่อเล่นอย่างไม่เป็นทางการในช่วงปลายยุคกลางใช้คำว่า ekename ซึ่งหมายความถึง “ชื่อ” เหมือนกัน แต่ในท้ายที่สุดก็เปลี่ยนเป็น “nickname”
7. Sashay
“chasse” ในคำกริยาจะเป็น “chase” ที่แปลว่ากวดไล่ แต่แล้วก็ออกเสียงใหม่โดยการเปลี่ยนเสียง “sh” และ “s” ในที่สุด
8. Ammunition
Ammunition เกิดจากการแบ่งคำที่ไม่ถูกต้อง ทหารฝรั่งเศสในยุคกลางได้ยินคำว่า “la munition” เป็น l’amonition และต่อมาภาษาอังกฤษได้นำคำที่ใช้ผิดนี้มาใช้กันในศตวรรษที่ 17
9. Varsity
คำดั้งเดิมของคำนี้คือ “versity” ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นแบบสั้นกระชับของคำว่า “university” โดยไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปอย่างแน่ชัด และในบางครั้งก็ตัว E ก็ถูกเปลี่ยนเป็นตัว A
10. Umpire
มาจากภาษาฝรั่งเศสของคำว่า “nompere” แต่เนื่องจากตอนพูดออกมาจะออกเสียงรวมๆ กันจาก “a noumpere” ก็กลายเป็น “an oumpere”
11. Tornado
คำนี้เป็นความผิดพลาดจากคำศัพท์ภาษาสเปนคือ “tronada” มีความหมายว่าฝนฟ้าคะนอง เมื่อเวลาผ่านไปก็พูดสลับ “r” กับ “o” จึงเกิดเป็นคำใหม่ขึ้นมา
12. Expediate
คำกริยา expediate ซึ่งหมายความว่า ‘รีบเร่ง’ หรือ ‘ทำอะไรบางอย่างรวดเร็ว’ เชื่อกันว่าได้รับการคิดค้นจากนักการเมืองอังกฤษ Sir Edwin Sandys ที่สะกดคำ expedite เพี้ยนไปจึงมีความมหมายเป็น ‘พร้อมสำหรับการดำเนินการ’ หรือ ‘แจ้งเตือน’ จากในบทความที่เขาเขียนในช่วงต้นทศวรรษ 1600
13. Culprit
มาจากวลีภาษาฝรั่งเศสยุคกลางว่า “Culpable, prest d’averrer nostre bille” แปลว่า “มีความผิด คดีของเราพร้อมที่จะพิสูจน์” แต่ต่อมาได้รับการย่อให้สั้นกระชับขึ้นจึงกลายเป็น culprit
14. Ingot
คำนี้แต่เดิมในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า “lingot” แต่เมื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วนักเขียนบางท่านก็เอาตัวอักษร L ออก เพราะเชื่อว่าตัว L เป็นตัวย่อของ the ในภาษาฝรั่งเศส
15. Scandinavia
Scandinavia ไม่ได้เป็นเพียงชื่อประเทศเสมอไป ในครั้งหนึ่งพวกเขาไม่รวมตัว N ตัวแรกเข้ามาด้วยจึงกลายเป็น “Scadinavia” ซึ่ง Oxford English Dictionary ได้อ้างไว้ว่านักวิชาการชาวโรมันเป็นคนเพิ่มตัว N เข้าไปอีกที
ที่มา www.rd.com