สวัสดีครับเพื่อนๆ ยังไม่หมดสำหรับการพาเที่ยวนะครับ โดยวันนี้ ScholarShip.in.th ขอพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวเทศกาลต่างๆ ที่น่าสนใจจากทั่วโลกเลยนะครับ
สำหรับช่วงเทศกาลหรืองานรื่นเริงนั้น เรียกได้ว่าสร้างทั้งความสุขความสนานให้กับผู้คน อีกทั้งยังเป้นการได้พบหน้าคร่าตากับญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ที่เรารู้จักกันดี เช่น เทศกาลสงกรานต์ ลอยกระทงของไทยนี่เอง
วันนี้เราเลยจะขอพาเพื่อนๆ ไปพบกับ 19 เทศกาลน่าเที่ยวทั่วโลก จากเว็บไซต์ distractify ที่เรียกได้ว่าในชีวิตต้องไปให้เห็นกับตากันสักครั้งเลยล่ะ…
1. โฮลี่ เฟสติวัล (Holi (Festival of Colours), Hindu World)
เทศกาลการต้อนรับฤดูใบไม้ผลิและเป็นการเฉลิมฉลองชีวิตใหม่ นับเป็นอีกหนึ่งสีสันของประเทศอินเดียที่นอกจากจะสร้างความครื้นเครงให้ผู้คนในประเทศแล้ว ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากทีเดียว โดยทั้งวันจะมีการปาสีใส่กันทั้งวันเลยล่ะ
2. วินเทอร์ ไลท์ เฟสติวัล, คุนาวะ, ประเทศญี่ปุ่น (Winter Light Festival, Kuwana City, Japan)
เทศกาลประจำปีเมืองคุนาวะ จังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นอยู่ที่แสงไฟจากหลอดไฟ LED กว่า 7 ล้านดวง ที่ส่องประกายหลากสีสันในสวนพฤกษาศาสตร์ Nabana no Sato ที่สำคัญนั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยล่ะ เพราะว่าใช้พลังงานแสงอาทิตย์
3. เวนิสคาร์นิวัล (Carnevale, Venice, Italy)
เทศกาลคาร์นิวัลสวมหน้ากากอันโด่งดัง ประชาชนจึงได้รวมตัวกันเฉลิมฉลองบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค (San Marco Square) นับเป็นเทศกาลรื่นเริงในอิตาลีที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับขบวนพาเหรดสุดตระการตา ดนตรีสด และกิจกรรมต่าง ๆ
4. เทศกาล Up Helly Aa Fire, เชตแลนด์, ประเทศสกอตแลนด์ (Up Helly Aa Fire Festival, Shetland, Scotland)
เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองการสิ้นสุดเทศกาลคริสต์มาสอย่างยิ่งใหญ่ โดยการเฉลิมฉลองจะเริ่มจากการเดินขบวนในช่วงระหว่างวัน ส่วนในช่วงกลางคืนจะมีการจุดคบเพลิงแล้วโยนใส่เรือไวกิ้งจำลอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมาของชาติในสมัยก่อนด้วย
5. เทศกาลปามะเขือเทศ, ประเทศสเปน (La Tomatina, Bunol, Spain)
เทศกาลปามะเขือเทศจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันพุธสุดท้ายของเดือนสิงหาคมที่ Bunol ในเมืองบาเลนเซีย โดยจะปามะเขือเทศใส่กันอย่างเมามันส์เลยล่ะ
6. เทศกาลบอลลูนนานาชาติ, เมืองแอลบูเคอร์คี, สหรัฐอเมริกา (Albuquerque International Balloon Festival, USA)
เป็นการปล่อยบอลลูน 13 ลูกขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบสถานีวิทยุ 770 AM KOB Radio ซึ่งเป็นที่น่าตื่นใจไปทั่วทั้งเมือง จนกระทั่งมันได้กลายเป็นเทศกาลที่สร้างความบันเทิงให้กับผู้มาเยือนไม่น้อย แต่ระวังเมื่อยคอกันล่ะ อิอิ
7. เทศกาลเบิร์นนิ่งแมน, รัฐเนวาดา, สหรัฐอเมริกา (Burning Man, Nevada, USA)
เป็นเทศกาลประจำปี โดยจะมีศิลปินได้สร้างรูปปั้นขนาดยักษ์กว่า 12 รูป แต่ละรูปมีความสูงกว่า 100 ฟุตทีเดียว และเมื่อถึงเวลาค่ำคืนขณะที่ดนตรีบรรเลงก็ได้มีการเริ่มจุดไฟเผารูปปั้นเหล่านั้น ซึ่งแต่ละปีจะมีผู้เข้าชมเทศกาลดังกล่าวถึง 50,000 คนเลยล่ะ
8. เทศกาลลอยโคม, ประเทศจีน (Lantern Festivals, China)
ประเพณียอดฮิตที่นักท่องเที่ยวอยากจะมาเห็นกับตาสักครั้ง ความงดงามของโคมลอยที่ส่องสว่างแข่งกันแสงดาวบนท้องฟ้านับพัน ช่างเป็นภาพที่งดงามเหนือคำบรรยาย อีกทั้งมันยังแฝงไปด้วยความหมายที่สื่อถึงการปล่อยเรื่องไม่ดีในอดีตให้ลอยไปกับโคม แล้วพร้อมที่จะเริ่มชีวิตใหม่ที่สุกสกาวอีกครั้ง (เทศกาลนี้มีที่เชียงใหม่บ้านเฮาด้วยแหละ ถ้าไม่อยากไปไกล ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน อิอิ)
9. เทศกาลการ์มา, ประเทศออสเตรเลีย (Garma Festival – Australia)
จัดโดยชนเผ่า Yolngu ของประเทศออสเตรเลีย โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากทางการ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น มีทั้งการเต้น ขับร้อง ศิลปะ และท่วงท่าการรำธงบนพื้นทราย นอกจากนี้ยังมีการแบ่งปันความรู้และวัฒนธรรมของชนเผ่าด้วย แต่ผู้ที่จะเข้าร่วมงานได้นั้นต้องถูกเชิญเท่านั้นนะครับ
10. เทศกาลพระอาทิตย์, ประเทศเปรู (Inti Raymi (Festival of the Sun) – Peru)
ชนเผ่าอินคาได้มีการเดินขบวนพาเหรดเพื่อบูชาเทพแห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นอีกเทศกาลสำคัญของชนเผ่า นอกจากนี้ยังถือเป็นการรำลึกถึงบรรพบุรุษที่ร่วมก่อตั้งชนเผ่าอินคาด้วย ถ้าอยากได้รับบรรยากาศตามแบบฉบับอินคาเต็มๆ ล่ะก็ พลาดไม่ได้
11. เทศกาลหิมะที่ซัปโปะโระ, ประเทศญี่ปุ่น (The Sapporo Snow Festival – Japan)
เทศกาลหิมะเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 โดยเด็กมัธยมชาวญี่ปุ่นได้ช่วยกันปั้นหิมะจนกลายเป็นประติมากรรมสุดยิ่งใหญ่ที่สวนโอโดะริจนผู้คนให้ความสนใจอย่างมาก และก็กลายเป็นเทศกาลเลื่องชื่ออย่างปัจจุบัน
12. เทศกาลช้าง, เมืองชัยปุระ, ประเทศอินเดีย (Elephant Festival, Jaipur, India)
จะมีการจัดเทศกาลช้างขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม โดยมีการแต่งองค์ทรงเครื่องช้างด้วยผ้าและเครื่องประดับ จากนั้นก็เป็นการเดินขบวนของช้างไปตามจุดต่าง ๆ อีกทั้งยังมีกิจกรรมรื่นเริงมากมายอีกด้วยล่ะ
13. วันแห่งความตาย, ประเทศเม็กซิโก (Day of the Dead – Mexico)
หรือ Dia De Los Muerto ถือเป็นวันหยุดของชาวเม็กซิกัน ที่ทุกคนจะรวมใจกันอธิษฐานและสวดมนต์ถึงบรรดาครอบครัวหรือเพื่อนที่ล่วงลับให้ไปสู่สุคติ นอกจากนี้ยังมีการเดินขบวนของประชาชนที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าและขนนกคล้ายกับอินเดียแดงอีกด้วย
14. ไวท์ ไนท์ เฟสติวัล, เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, ประเทศรัสเซีย (White Nights Festival – Saint Petersburg, Russia)
เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองและระบบคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลง โดยจะจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่มีปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์เที่ยงคืน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นในบางประเทศของทวีปยุโรป สัญลักษณ์ของเทศกาลก็คือเรือใบสีแพงที่จะลอยมากลางน้ำ อีกทั้งยังมีการจุดพลุดอกไม้ไฟ และแสงไฟเลเลอร์ที่สาดส่องท่ามกลางแม่น้ำด้วย
15. เทศกาลอิเล็คทริค ฟอเรสต์ มิวสิค เฟสติวัล, มิชิแกน (Electric Forest Music Festival, Rothbury, Michigan)
เป็นเทศกาลที่จะทำให้คุณตื่นตาไปกับแสงไฟหลากสีท่ามกลางป่าไม้ ถือเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีดนตรีสดให้คุณได้สัมผัสถึงความชิลสุด ๆ แถมเหมือนได้ทำบุญไปในตัวเพราะรายได้จากงานนี้จะถูกนำไปบริจาคให้คนยากไร้อีกด้วย
16. เทศกาลแกะสลักทรายนานาชาติ, ประเทศโปรตุเกส (International Sand Sculpture Festival, Portugal)
การแสดงผลงานการแกะสลักทรายกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเลย ซึ่งในแต่ละปีจะมีศิลปินกว่า 60 คน ที่ใช้ทรายมากกว่า 35,000 ตัน ในการสร้างสรรค์ประติมากรรมชิ้นเอกให้เป็นรูปร่างรูปทรงต่าง ๆ อย่างงดงาม และสมจริงที่สุด
17. เทศกาลป่าฝน เวิลด์ มิวสิค เฟสติวัล, กูชิง, บอร์เนียว (Rainforest World Music Festival, Kuching, Borneo)
คุณจะได้สัมผัสกับดนตรีสดหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นร็อค, ป๊อบ, แจ๊ส หรืออะคูสติก เรียกว่าเอาใจทุกคอเพลงทุกแนวดนตรีเลยล่ะ ซึ่งในแต่ละปีจะมีศิลปินระดับโลกร่วมแจมกันมากหน้าหลายตาอีกด้วย
18. เทศกาล Cascamorras, ประเทศสเปน (Cascamorras, Spain)
Guadix และ Baza เป็นสองเมืองที่ตั้งอยู่ในกรานาดา กล่าวกันว่าเมื่อ 500 กว่าปีก่อนสองเมืองนี้เคยเป็นทั้งมิตรและศัตรู เพราะคนงาน Baza ไปพบทองในเขตของ Guadix และพยายามโขมยออกมา แต่สุดท้ายแล้วก็กลับมาเป็นมิตรกันเหมือนเดิม เพราะได้อธิษฐานอ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เลยได้จัดเทศกาลเพ้นท์และสาดหมึกสีดำใส่กันอย่างสนุกสนาน -*-
19. เทศกาลแกลสตันบูรี, ประเทศอังกฤษ (Glastonbury, England)
แกลสตันบูรี เป็นเทศกาลดนตรีและการแสดงบนผืนหญ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการบันทึกจำนวนผู้ร่วมงานได้ถึง 135,500 คนเลยทีเดียว รวมถึงศิลปินที่มาแจมอย่างมากหน้าหลายตาอีกด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ไม่ควรพลาดเลยนะครับ
ไม่อยากจะนับเอาเทศกาลต่างๆ สุดฮิตของไทยเราเช่น ลอยกระทง หรือสงกรานต์ไปสู้บ้างนะครับอิอิ รับรองตัวเลขไม่แพ้กันแน่นอน แล้วมาชมสาระดีๆ แบบนี้กันได้ใหม่กับ ScholarShip.in.th นะจ๊ะ
Source: PostJung