เช่นเดียวกับทุกสิ่งในโลกใบนี้ บ้านเมืองเองก็มีอายุตามยุคตามสมัย
ลอนดอนเริ่มต้นมาจากการเป็นชุมชนเล็กๆ ของโรมันที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ ก่อนที่จะกลายมาเป็นเมืองที่มีผู้คนกว่า 8.6 ล้านคนเรียกว่าบ้าน และนี่คือ 21 แผนที่ ภาพวาดและภาพถ่ายเก่า ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการเดินทางจากหมู่บ้านไปสู่เมืองหลวงของอังกฤษ
จากการค้นคว้าทางโบราณคดีซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการตั้งถิ่นฐานของกรุงลอนดอนใกล้แม่น้ำเทมส์ในช่วงปี 4500 ก่อนคริสตกาล
ชาวโรมันก่อตั้ง Londinium ซึ่งเรียกว่าลอนดอนในปัจจุบัน ภาพประกอบของ Londinium ในปี 200 นี้แสดงให้เห็นสะพานแห่งแรกของเมืองเหนือแม่น้ำเทมส์
จากศตวรรษที่ 7 -11 ชาวแองโกลแซกซอนย้ายเข้าไปอยู่ใน Londinium การตั้งถิ่นฐานของพวกเขาถูกวางไว้ในรูปแบบตารางและเติบโตขึ้นโดยการเพิ่มประชากร 10,000 – 12,000 คน
นี่เป็นภาพเขียนในปี 1749 ของ Westminster Abbey ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นอกจากนี้ยังเป็นอาคารที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงลอนดอน
จนถึงศตวรรษที่ 11 ลอนดอนมีท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ
ในศตวรรษที่ 12 ราชสำนักอังกฤษเริ่มเติบโต มีความซับซ้อนมากขึ้นและตั้งรกรากอยู่ในย่าน Westminster ย่านใจกลางกรุงลอนดอน
ในปี 1176 กษัตริย์เฮนรีที่สอง ได้สั่งให้สร้างสะพานหินใหม่ซึ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1284 ในขณะที่สะพานลอนดอนดั้งเดิมจะคงอยู่ได้ยาวนานกว่า 600 ปี
ระหว่างปี 1536 – 1541 กษัตริย์เฮนรีที่แปดได้เข้าบุกยึดอารามกว่าา 800 แห่งซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานประกอบการเชิงพาณิชย์และฟาร์มเกษตรกรรมขนาดใหญ่ในอังกฤษ
ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาสื่อสิ่งพิมพ์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 มีการเผยแพร่ข่าวไปทั้งเมืองและพัฒนาระดับความรู้ ร้านกาแฟก็กลายเป็นที่นิยมสำหรับการถกเถียงพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ
ในศตวรรษที่ 17 ลอนดอนได้รับความเดือดร้อนจากโรคระบาดใหญ่ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 100,000 คน ในปี. 1666 ได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ขึ้น ทำให้ต้องใช้เวลากว่าสิบปีในการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่
เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญตลอดช่วงทศวรรษที่ 1700 และท่าเรือลอนดอนยังคงขยายตัวต่อเนื่อง
ในยุคสมัยจอร์เจีย (ตั้งแต่ปี 1714 -1830) เกิดย่านใหม่ๆ เช่น Mayfair ขึ้น มีการสร้างสะพานใหม่ในเมือง Thames ซึ่งช่วยให้ลอนดอนใต้เกิดการพัฒนา
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ลอนดอนสามารถแซงหน้ากรุงอัมสเตอร์ดัมขึ้นเป็นศูนย์กลางทางการเงินชั้นนำของยุโรป
และกองเรือรบก็กลายเป็นกองทัพเรือชั้นนำของโลก
ลอนดอนเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 1831 – 1925 ก่อนจะถูกนครนิวยอร์กมาแทนที่
ประชากรที่เพิ่มมากขึ้นและการจราจรที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดการสร้างเครือข่ายรถไฟใต้ดินในท้องถิ่นแบบแรกในโลกในช่วงปลายทศวรรษ 1860
กษัตริย์จอร์จที่หก ขึ้นครองราชย์ในปี 1936 นี่คือภาพของเชื้อพระวงศ์ ได้แก่ พระราชินีอลิซาเบธที่สอง ในปี 1939
ลอนดอนถูกสงครามโลกครั้งที่สองพังทลายตั้งแต่ปี 1941 พลเรือนซ่อนตัวอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อหลบหนีจากการถูกโจมตีทางอากาศ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 30,000 คนเมื่อสงครามจบลง
ในช่วงกลางทศวรรษ 1960 ลอนดอนกลายเป็นศูนย์กลางของแฟชั่น ดนตรีและศิลปะระดับโลก
ลอนดอนยังคงรักษาสถานที่ต่างๆ ไว้เป็นศูนย์กลางของอำนาจระดับโลก
และในวันนี้ ลอนดอนก็มีประชากรมากกว่า 8.6 ล้านคน
ที่มา : www.businessinsider.com