หากอยากเก่งทักษะการพูดภาษาอังกฤษ ก็ต้องโฟกัสในส่วนการพูดแทนที่จะอ่านอย่างเอาเป็นเอาตาย บางคนร่ำเรียนภาษาอังกฤษมานานหลายปีจนรู้หลักการและโครงสร้างไวยากรณ์อย่างถ่องแท้
บางทีอาจรู้มากกว่าเจ้าของภาษาด้วยซ้ำ แต่กลับยากเย็นในเรื่องการสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ มาค่ะ…มาพัฒนาทักษะการพูดให้หรูเลิศด้วยเคล็ดลับการดูหนังภาษาอังกฤษที่เรานำมาฝากในบทความนี้
เกริ่นก่อนว่า ทีวีซีรีส์หรือภาพยนตร์ภาษาอังกฤษในสมัยนี้หาเสพกันง่ายมาก มีทั้งแบบฟรีและเสียเงินรายเดือน ขึ้นอยู่กับอรรถรสที่เราอยากชม อีกทั้งยังมีหนังทุกประเภท เรียกได้ว่ามีความหลากหลายเลือกจนตาลายกันเลยทีเดียว
1. เลือกเรื่องที่จะดูให้มีความเหมาะสม
เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะคุณต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงกับการดูหนังเรื่องนั้นๆ ดังนั้นเลือกเรื่องที่คุณเองแน่ใจว่าสามารถดูซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นสิบๆ ครั้งได้
ทำไมต้องสิบๆ ครั้ง?? เพราะว่านี่เป็นการเรียนไงล่ะ…คุณจะต้องดูหนังหลายครั้งในช่วงหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ เพื่อจดจำและเรียนรู้ภาษาอังกฤษและโครงสร้าง
2. มีส่วนร่วมไปกับเนื้อเรื่อง
อีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้กันหากเลือกดูเรื่องที่คุณไม่เคยดูมาก่อน ดังนั้นจึงต้องโฟกัสเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ดำเนินไป ไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดเนื้อหาหากมัวแต่โฟกัสแต่ภาษาเพราะซับไตเติ้ลสามารถช่วยคุณได้ ซึ่งสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนใหม่ สำคัญอย่างยิ่งที่จะเลือกดูแบบมีซับไตเติ้ลกำกับด้วย
3. คำบรรยาย
เมื่อเข้าใจไปกับเนื้อเรื่องแล้วคราวนี้ก็สามารถเลือกบางฉากที่ต้องการย้อนกลับไปดู โดยใช้วิธีดูบรรยายดังนี้
-ดูฉากนั้นด้วยคำบรรยายภาษาอังกฤษ : การดูหนังซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษเป็นวิธีในการพัฒนาทักษะภาษาที่ดีมาก ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่รวมถึงรูปประโยคด้วย นอกจากนี้ภาพยนตร์ที่มีซับภาษาอังกฤษมีอยู่มากกว่าภาษาอื่นๆ ซึ่งเป็นเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน
-ใช้คำบรรยายคู่กัน : ในกรณีที่สามารถใช้โหมดคำบรรยายคู่ได้ ให้เปิดการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษพร้อมกับภาษาหลักของเราเอง
4. ปิดคำบรรยายแล้วโฟกัสที่เนื้อเรื่อง
หลายคนคงกังวลกับวิธีนี้เพราะกลัวว่าจะไม่รู้เรื่องไปกันใหญ่ แต่เชื่อเถอะว่ามันให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว นอกจากนี้ให้ลองใช้บางฉากในการอัดเสียงหรือเลียนแบบท่าทางจากนักแสดงในเรื่อง เป็นการฝึกตัวเองให้เหมือนกับเจ้าของภาษานั่นเอง
5. จงเรียนให้สนุก
มาถึงขั้นตอนสุดท้ายหลายคนคงเทพในการดูหนังแบบไม่ต้องมีซับไตเติ้ลใดๆ คราวนี้ก็ลองดูเรื่องนั้นอีกรอบพร้อมกับเพื่อน (ที่อยากจะดูด้วย) เพื่ออภิปรายในส่วนของวัฒนธรรมในหนัง ศัพท์สำนวนหรือคำสแลง และการแสดงออกสีหน้าท่าทางของนักแสดง
เทคนิคดีๆ 5 ข้อนี้ไม่ยากในการนำไปปฏิบัติตามเลยใช่มั้ยล่ะ นอกจากฝึกในเรื่องการพูดให้เหมือนหรือคล้ายคลึงเจ้าของภาษาแล้ว ยังเป็นการฝึกทักษะการฟังไปในตัวอีกด้วย เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เลย
ทีี่มา www.fluentu.com