หลายๆ บริษัทนอกจาก Resume แล้วก็ต้องการ Cover Letter เพื่อแสดงถึงทักษะและประวัติเพิ่มเติมของผู้สมัครเพื่อประกอบการพิจารณา ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Jodi Glickman ถึงกับแนะนำว่าการใม่แนบ Cover Letter ถือเป็นสัญญาณของความเกียจคร้าน
แต่เราก็ทราบดีว่าการเขียน Cover Letter ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับหลายๆ คน รวมถึงนักศึกษาจบใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ วันนี้เราจึงมีคำแนะนำดีๆ จาก Jodi Glickman มาฝาก นำไปปรับใช้กับงานที่ต้องการได้เลย
#1 ศึกษาค้นคว้าข้อมูลให้ดี
โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่ต้องการสมัครงานด้วย ทั้งเว็บไซต์ ทวิตเตอร์ โปรไฟล์ LinkedIn ทั้งขององค์กรและของพนักงาน รวมถึงการทำความเข้าใจรายละเอียดงานให้ดี ค้นหาความท้าทายที่ บริษัทเผชิญและบอกบทบาทของคุณว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไร
#2 เปิดด้วยความมั่นใจ
รูปแบบการขึ้นต้นอย่าง ‘I’m applying for X job that I saw in Y place.’ กลายเป็นรูปแบบที่จำเจ อย่าลืมว่า HR ต้องอ่านข้อมูลเหล่านี้มามากมาย ลองเปลี่ยนเป็นการเริ่มต้นด้วยการอธิบายว่าทำไมงานนี้ถึงตื่นเต้นและทำไมคุณถึงเป็นผู้สมัครที่เหมาะสม
เช่น “I’m an environmental fundraising professional with more than 15 years of experience and I’d love to bring my expertise and enthusiasm to your growing development team.” เป็นต้น
และหากมีความสัมพันธ์กับพนักงานในบริษัท ก็สามารถกล่าวถึงตั้งแต่ย่อหน้าแรกเช่นกัน จำไว้ว่าการแสดงตัวเองให้น่าสนใจตั้งแต่เริ่มต้นถือว่าได้เปรียบในการเรียกเข้าสัมภาษณ์แล้วล่ะ
#3 เน้นย้ำทักษะและคุณค่าของตนเอง
การสมัครงานคือการเผชิญกับความท้าทายบางอย่าง แต่คุณรู้ดีว่าผู้ว่าจ้างกำลังมองหาคนที่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ นอกจากแสดงให้เห็นว่าคุณรู้ว่าบริษัทกำลังมองหอะไรแล้วก็อย่าลืมโน้มน้าวด้วยการแสดงประสบการณ์และคุณค่าของตนเองด้วย
ยกตัวอย่างประสบการณ์ การแก้ไขปัญหาในอดีตที่คล้ายคลึงกับตำแหน่งงานที่องค์กรนั้นๆ แสดงให้เห็นว่าคุณสามารถสร้างความสำเร็จได้อย่างไรเมื่อองค์กรจ้างคุณ
#4 แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้น
ทำให้ชัดเจนว่าทำไมคุณต้องการตำแหน่งนั้น “ในระบบเศรษฐกิจทุกวันนี้ ผู้คนจำนวนมากมีทักษะที่เหมาะสม ดังนั้นนายจ้างต้องการคนที่ต้องการงานจริงๆ” Glickman กล่าว อีกทั้ง “ความกระตือรือร้นบ่งบอกถึงบุคลิกภาพ” อีกด้วย
หลายๆ คนจึงชอบส่งใบสมัครในกว่า 100 ตำแหน่งงาน แต่ทำไมไม่ลองเปลี่ยนเป็นค้นหา 10 ตำแหน่งงานที่คุณชื่นชอบและตั้งใจ แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นอย่างเต็มที่ว่าคุณต้องการงานจริงๆ
#5 ทำให้สั้นๆ เรียบง่ายได้ใจความ
ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่าCover Letter ยิ่งสิ้นยิ่งดี การเขียนยาวเกินไปนั้นอาจทำให้อ่านตกหล่นไป การเขียนในรูปแบบสั้นๆ จะทำให้ผู้อ่านอ่านได้อย่างรวดเร็ว และจับใจความได้ครบจบทีเดียว แต่คุณต้องมั่นใจว่าคุณเขียนเนื้อหาได้ครอบคลุมเช่นกัน
ข้อควรจำ
Do
– มีประโยคเปิดที่กว้าง ชัดเจน มั่นใจว่าทำไมคุณถึงต้องการทำงานในตำแหน่งนั้น และคุณเหมาะสมอย่างไร
– ควรเขียนอย่างรวบรัดที่ทำให้ผู้ว่าจ้างสามารถอ่านจับใจความได้อย่างรวดเร็ว
– เขียนแสดงให้เห็นว่าคุณมีทักษะและสามารถเผชิญกับความท้าทายได้
Don’t
– อย่าทำให้มันเป็นเรื่องตลก
– อย่าส่งจดหมายสมัครงานไปทั่ว ควรปรับแต่งให้เหมาะสมกับแต่ละตำแหนง
– อย่าสรรเสริญเยินยอจนเกินไป ควรแสดงความเป็นอาชีพและความเป็นผู้ใหญ่
อันที่จริงการเขียน Cover Letter ก็ไม่ได้ยากเกินไปนัก! ลองเปิดใจและลองดูกับมันสักตั้งแล้วคุณอาจจะได้งานในตำแหน่งที่ต้องการก็เป็นได้ :)
ที่มา: hbr