อีกหนึ่งเรื่องราวที่ทาง ScholarShip.in.th อยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังกับเพื่อนๆ เป็นเรื่องราวของเด็กๆ จ้า ที่ชอบเล่นเกมกัน เรื่องราวจะเป็นยังไงมาติดตามกันได้เลย
ผลวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสารกุมารเวชศาสตร์ พบว่า เด็กที่เล่นวิดีโอเกมส์หรือเกมส์กดวันละไม่เกิน 1 ชั่วโมงจะมีพัฒนาการทางด้านสังคมและสุขภาพจิตที่ดีกว่าเด็กที่เล่นเกมส์กดมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน
ซึ่งผลวิจัยนี้สำรวจได้มาหลังการเก็บข้อมูลประชากรตัวอย่าง 5,000 คน ซึ่งเป็นเด็กที่มีอายุระหว่าง 10-15 ปีทั่วประเทศครับ
ร้อยละ 75 ของเด็กทั่วอังกฤษเล่นเกมส์เป็นประจำทุกวัน แต่เมื่อถามเด็กๆ เหล่านั้นว่า ในแต่ละวันเล่นเป็นเวลานานเท่าไร เล่นวิดีโอเกมส์หรือว่าเกมส์คอมพิวเตอร์ และรู้สึกอย่างไร ผู้วิจัยพบว่า เด็กส่วนใหญ่เล่นวิดีโอเกมส์วันละไม่เกิน 1 ชั่วโมง และมีความรู้สึกว่า การใช้เวลาเล่นเกมส์เพียงแค่นี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อชีวิต
อีกทั้งพวกเขาก็ยังมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่นในระดับดีมาก อย่างไรก็ตาม วิจัยชิ้นนี้พบว่า เด็กที่มีปัญหาทางอารมณ์หรือสมาธิสั้นจากการเล่นเกมส์มีจำนวนน้อยมาก โดยท้ายที่สุดแล้ว เด็กที่ใช้เวลาเล่นเกมส์มากกว่า 3 ชั่วโมงมีพัฒนาการทางสังคมตํ่า แต่ไม่ถึงกลับเลวร้ายแต่อย่างใด
ดร.แอนดริว ชิเบียลสกี นักจิตวิทยา ผู้ทำวิจัยชุดนี้ กล่าวว่า วิจัยชุดนี้ศึกษาทั้งด้านดีและด้านเสียของการเล่นเกมส์ ควบคู่กันไป แต่ผลปรากฏชัดเจนว่า เกมส์ช่วยสร้างเสริมพัฒนาการของเด็กได้ดี หากเล่นในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง
แต่โดยปกติแล้ว วิดีโอเกมส์ส่วนใหญ่จะมีคำเตือนในการจำกัดระยะเวลาการเล่นชัดเจนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชิ้นนี้ เน้นการใช้สถิติเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นหลัก แต่ปัจจัยตัวอื่นๆ เช่น ครอบครัวก็มีบทบาทไม่น้อย ต่อวิถีการเล่นเกมส์ของเด็กๆเหล่านั้นด้วยนะครับ
ทีนี้ถ้าเห็นน้องๆ หรือลูกๆ เล่นเกมกดกันก็อย่าไปห้ามปรามนะจ๊ะ แต่ถ้ามากเกินไปก็ลองหากิจกรรมอื่นๆ ให้ทำกันดูนะจ๊ะ เพราะชีวิตมีอะไรดีกว่าแค่หน้าจอใช่มั้ยล่ะ
ที่มา: Catdumb