การขอวีซ่านักเรียนสำหรับไปเรียนต่อกันที่สหรัฐอเมริกา…

ประเทศสหรัฐอเมริกาก็นับได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางของเพื่อนๆ หลายๆ คนที่อยากจะไปศึฏษาต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า การได้ฝึกภาษา รวมถึงการได้เรียนในประเทศที่ระบบการศึกษาก็เรียกได้ว่าอยู่ชั้นแนวหน้าของโลก ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ดึงดูดเหล่านักศึกษามากมายจากทั่วโลกเลยล่ะ

ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น แน่นอนครับก็ต้องขอวีซ่ากันก่อน ซึ่งวีซ่าของทางประเทศสหรัฐอเมริกาที่จดไว้ให้กับนักศึกษาต่างชาติที่ไปเรียนต่อนั้นจะมีอยู่ 3 ประเภทนะครับ นั่นก็คือ…

นักศึกษานานาชาติส่วนใหญ่เดินทางเข้าสู่สหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่านักศึกษาประเภท F-1 (การเรียนเชิงวิชาการ) M-1 (ไม่ใช่เชิงวิชาการหรืออาชีวศึกษา) และJ-1 (การได้รับการสนับสนุนจากองค์กรใดองค์กรหนึ่งสำหรับฝึกอบรม/เรียน) ครับ

ซึ่งถ้าเพื่อนๆ คนไหนต้องการวีซ่าก็จะต้องมีคุณสมบัติที่กำหนดนะครับ คือ…
– สมัครเรียนหลักสูตรเชิงวิชาการ (ระดับปริญญาตรีหรือบัณฑิต) หลักสูตรฝึกภาษาหรืออาชีวศึกษา
– ตรวจสอบว่าสถาบันการศึกษาของคุณได้รับการรับรองจากหน่วยงานบริการพลเมืองและตรวจคนเข้าเมืองแห่งสหรัฐอเมริกา
– สมัครเรียนในฐานะนักศึกษาเต็มเวลาเท่านั้น
– มีความรู้ภาษาอังกฤษหรือสมัครเรียนหลักสูตรที่จะนำไปสู่ความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ
– มีเงินทุนเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆตลอดระยะเวลาการเรียนของหลักสูตร
– มีถิ่นที่อยู่อาศัยถาวรในประเทศ (หมายถึงประเทศของเรานะครับ) โดยคุณไม่มีความประสงค์ที่จะละทิ้ง

ทั้งนี้เพื่อนๆ ก็ต้องหาที่เรียนกันให้ได้ก่อนนะครับ และก็ทำการสมัครเข้าเรียน และได้รับจดหมายตอบรับการเข้าเรียนจากทางมหาวิทยาลัยแล้ว ถึงจะเริ่มกระบวนการนี้ได้ครับผม

โดยหลังจากที่เราได้รับจดหมายตอบรับเข้าเรียน ทางมหาวิทยาลัยก็จะส่งแบบฟอร์ม  I-20 และ DS ซึ่งก็คือหนังสือที่ออกโดยสถานศึกษาที่ตอบรับให้นักเรียนเข้าศึกษา เป็นหนังสือแสดงการได้รับอนุญาตให้อยู่ในสหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาที่ศึกษาตามหลักสูตร  หนังสือนี้ต้องมีอายุตลอดระยะเวลาที่ศึกษา หลังจากเดินทางเข้าสหรัฐฯ แล้วนักเรียนจะต้องเก็บสำเนาไว้ให้ดีนะครับ

และที่สำคัญที่สุด อย่าลืมชำระค่าธรรมเนียมทั้งหมดนะครับ ซึ่งจะมีราคาราวๆ 200$ หรือไม่เกิน 6,000 บาทครับ ถ้าไม่จ่ายล่ะก็ อเได้วีซ่ากันไม่รู้นะ อิอิ

แล้วไว้เรามาพบกับเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการศึกษาและต่างประเทศ อัพเดทได้ทุกๆ วันกับ ScholarShi.in.th นะครับ

Source: hotcourse