สวัสดีจ้าเพื่อนๆ ชาว ScholarShip.in.th วันนี้เราก็มีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับทุนการศึกษาและทุนไปเรียนต่อต่างประเทศมาฝากกันอีกแล้วล่ะ ลองมาชมรายละเอียดกันได้เลยนะจ้ะ
หลายๆ คนที่อยากไปต่างประเทศกันนั้น ก็ย่อมจะคุ้นหูกับคำว่า TOEIC , TOEFL และ IELTS กันใช่มั้ยล่ะครับ ทั้งเรียน ทั้งไปทำงาน ก็ล้วนแต่ต้องเจอเจ้าการสอบพวกนี้นี่แหละ
และหลายๆ คนก็ต้องงงกันว่าอันไหนเป็นอะไร ใช้่ยังไง วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับแต่ละประเภทกันนะครับ ลองไปชมกันเลยดีกว่า
TOEIC (Test of English for International Communication )
เป็นข้อสอบมาตรฐานระดับสากล ในการวัดทักษะภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ ซึ่งสำหรับในประเทศไทยนั้น มีหลายหน่วยงานและสถาบันต่างๆมากมายที่ต้องการผล TOEIC เช่น ธุรกิจการบิน การโรงแรม และการท่องเที่ยวเป็นต้น เพราะว่าเป็นการประเมิณการใช้ภาษาอังกฤษทางวิชาชีพนั่นเอง
ปัจจุบัน TOEIC มีการสอบ 2 รูปแบบคือ
1. TOEIC Listening and Reading Test (การฟังและการอ่าน) และ
2. TOEIC Speaking and Writing Tests (การพูดและการฟัง) ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่
ซึ่งในไทย มีการสอบเฉพาะแบบ TOEIC Listening and Reading Test (การฟังและการพูด) ซึ่งเป็นแบบทดสอบซึ่งสามารถวัดทักษะความสามารถในการนำภาษาอังกฤษมาใช้งานได้จริง
คะแนนของ TOEIC ไม่มีคะแนนได้ คะแนนตก ซึ่งแต่ละคะแนนจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้ภาษาของผู้สอบ โดยคะแนน TOEIC เริ่มจาก 10 คะแนนถึง 990 คะแนนครับผม
TOEFL (Test of English as a Foreign Language)
คือการทดสอบภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากที่สุดในโลก ไม่ว่าคุณต้องการศึกษาต่อที่ไหน การสอบ TOEFL สามารถช่วยให้คุณให้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้เลยล่ะ ซึ่งแต่เดิมจะใช้เฉพาะในประเทศสหรัฐฯ แต่ตอนนี้ก็เรียกได้ว่าได้รับการยอมรับอย่างเป็นสากลแล้ว
ผู้ที่สนใจสามารถเลือกการสอบได้ทั้ง Internet-based Test (iBT) หรือ Paper-based Test (PBT) ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่มีให้ที่ศูนย์ทดสอบครับผม
IELTS (International English Language Testing System)
การทดสอบภาษาอังกฤษระดับนานาชาติ ได้รับการออกแบบเพื่อใช้ประเมินความสามารถด้านภาษาของผู้สมัครสอบที่ต้องการ เรียน หรือทำงานในสถานที่ที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร โดยสามารถประเมิณความสามารถได้ทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และ การพูด รวมถึงความรู้ทางด้านไวยากรณ์และคำศัพท์ในการใช้ภาษาเลยทีเดียว
ซึ่งในปัจจุบันIELTS ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยและบริษัทต่างๆในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ IELTS ยังเป็นที่ยอมรับของสถาบัน กองตรวจคนเข้าเมือง และ องค์กรของรัฐบาลอีกหลายแห่ง และที่สำคัญผู้สมัครสอบควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปีนะครับ
สำหรับการสอบ IELTS แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. Academic : สำหรับผู้ต้องการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาหรือสูงกว่าในทุกสาขา
2. General Training : สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับต่ำกว่าอุดมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา หลักสูตรระยะสั้น หลักสูตรฝึกอบรมต่าง ๆ ครับผม
ทีนี้เพื่อนๆ ก็รู้กันแล้วนะครับว่าการสอบแต่ละประเภทคืออะไร ใช้งานแบบไหน เลือกการสอบให้ถูกประเภท เหมาะกับการใช้งาน และที่สำคัญเตรียมตัวกันให้ดีนะได้ไม่แป๊กนะจ๊ะ อิอิ
Source: TrinityThailand