วันนี้ ScholarShip.in.th ก็ได้นำเอาการจัดอันดับของเมืองที่น่าไปเรียนต่อที่สุดในโลก ประจำปี 2557 มาฝากกันครับ ซึ่งเป็นการจัดอันดับจากทาง The QS Best Student Cities 2014 จ้า
โดยการจัดอันดับนี้ได้ประเมิณเกณฑ์ 5 ประเด็นสำคัญๆ คือ การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก ความหลากหลายทางเชื้อชาติของนักศึกษา คุณภาพชีวิต ความนิยมของผู้ประกอบการ และค่าครองชีพครับผม จะมีเมืองไหนน่าไปเรียนบ้างนั้น เรามาชมกันได้เลย
อันดับ 10 มิวนิก (Munich) ประเทศเยอรมนี
เนื่องด้วยมีมหาวิทยาลัยชื่อดังชั้นนำของยุโรปตั้งอยู่ที่เมืองแห่งนี้ด้วย คือ Technische UniversitätMünchen มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศเยอรมนี และติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลกอยู่ในอันดับที่ 53 นอกจากนั้นคะแนนที่ทำให้มิวนิกติดอันดับขึ้นมาเป็น 1 ใน 10 ของปีนี้ ได้แก่คะแนนในด้านการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และในเรื่องของค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ อีกทั้งค่าเทอมก็ไม่แพงอย่างที่คิด เป็นอีกหนึ่งเมืองที่นักเรียนนักศึกษาควรเก็บไว้พิจารณา
อันดับ 9 มอนทรีออล (Montréal) ประเทศแคนาดา
เมืองแห่งนี้เองมีมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับโลกด้วยกัน 3 แห่ง โดยมี McGill University อยู่ในอันดับที่ 21 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก มอนทรีออล มีคะแนนที่โดดเด่นเลยคือในเรื่องของความหลากหลายทางเชื้อชาติของนักศึกษา และยังเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูงอีกด้วย
อันดับ 8 บอสตัน (Boston) ประเทศสหรัฐอเมริกา
เป็นเมืองที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และเป็นแหล่งรวมศิลปวัฒนธรรม จนได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญแห่งหนึ่งของอเมริกาเลยล่ะ แถมยังมีมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆ เช่น Massachusetts Institute of Technology (MIT) และ Harvard University อีกด้วย
อันดับ 7 ฮ่องกง (Hong Kong) เขตการปกครองพิเศษฮ่องกง
แม้ว่าจะเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก แต่กลับมีคะแนนในด้านค่าครองชีพถือว่าค่อนข้างถูกมากเมื่อเทียบกับเมืองต่างๆ ที่ติดอันดับโลก แถมยังเป็นประเทศที่อยู่ใกล้กับประเทศไทย มีวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันระหว่างเอเชียกับตะวันตก ทำให้นักศึกษาที่เดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศฮ่องกงสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี
อันดับ 6 ซูริค (Zurich) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
นำมาด้วยคะแนนจากคุณภาพชีวิตที่ดีสูงลิ่ว อันเนื่องมาจากการวางรากฐานของเมืองที่ดี อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ส่วนในด้านการศึกษาซูริคถือเป็นเมืองที่มีค่าเล่าเรียนค่อนข้างถูก คุ้มค่าต่อการเดินทางมาศึกษาต่อมากๆ เลยล่ะ
อันดับ 5 เมลเบิร์น (Melbourne) ประเทศออสเตรเลีย
เมืองหลวงเก่าของประเทศออสเตรเลีย ที่นอกจากจะเป็นเมืองแห่งการศึกษาแล้ว ยังเป็นเมืองแห่งศิลปะอีกด้วย ทิวทัศน์รอบๆ เมืองที่สวยงามอากาศดี มีชายหาดมากมาย และแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยียน รวมทั้งยังมีมหาวิทยาลัยที่ติดอยู่ในอันดับที่ 31 ของโลก อย่าง University of Melbourne และเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดเป็นอันดับสองของออสเตรเลีย
อันดับ 4 ซิดนีย์ (Sydney) ประเทศออสเตรเลีย
ซิดนีย์ได้คะแนนสูงสุดจากเกณฑ์การประเมินผลในหัวข้อคุณภาพชีวิต ตามมาด้วยความหลากหลายทางเชื้อชาติของนักศึกษา และความต้องการของผู้ประกอบการ คะแนนอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีคนนิยมเรียนต่อมากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก แต่มีข้อเสียตรงที่ค่าครองชีพสูงไปหน่อยเท่านั้นเอง
อันดับ 3 สิงคโปร์ (ประเทศสิงคโปร์)
ประเทศอันดับหนึ่งของอาเซียนที่มีมาตรฐานการศึกษาอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก แต่มีค่าครองชีพที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ คุณภาพชีวิตและความปลอดภัยที่ค่อนข้างสูงติดอันดับโลก รวมถึงการมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นประเทศที่เปิดกว้างให้กับนักศึกษาจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก นักศึกษาที่จบจากประเทศสิงคโปร์เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานสูงมากอีกด้วย แถมยังมีมหาวิทยาลัยที่ได้มาตรฐานติดอันดับโลกอย่าง National University of Singapore (NUS) เป็นมหาวิทยาลัยนำธงของประเทศนี้
อันดับ 2 ลอนดอน (London) ประเทศอังกฤษ
ได้คะแนนสูงสุดจากหัวข้อความต้องการของผู้ประกอบการ รวมถึงหัวข้อความหลากหลายทางเชื้อชาติของนักศึกษา แต่กลับได้คะแนนในหัวข้อค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ เพราะการใช้ชีวิตอยู่ในลอนดอนนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ค่อนข้างมีทุนทรัพย์อยู่พอสมควร รวมถึงในด้านคุณภาพชีวิตที่ได้ต่ำกว่าเมือง Top 5 อื่นๆ แต่ก็ยังเป็นเมืองในฝันของเหล่าบรรดานักศึกษาอยู่ดี
อันดับ 1 ปารีส (Paris) ประเทศฝรั่งเศส
ขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงาม แม้ว่าจะมีค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อเฉลี่ยกับค่าใช้จ่ายในการศึกษาที่ค่อนข้างถูก และมีมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยม สามารถผลิตนักศึกษาที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน และบริษัทต่างๆ มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของกรุงปารีส คือ École normale supérieure หรือ Normale สถาบันวิชาชีพชั้นสูงของกรุงปารีสซึ่งมีอายุเก่าแก่ร่วมหลายร้อยปีอีกด้วย การันตีคุณภาพอย่างนี้ เอาไปเลย ที่ 1 เมืองน่าไปเรียนที่สุดประจำปี 2557 จ้า
Source: CampusLife