ทุกวันนี้บทบาทของผู้หญิงได้รับการยอมรับกันในสังคมมากขึ้นจากที่เมื่อก่อนแทบจะไม่ได้รับการยอมรับ วันนี้ Scholarship.in.th ก็เลยจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับ 10 อันดับผู้หญิง ที่คนทั้งโลกหลงรักและชื่นชมมากที่สุดของปี 2015!!
อันดับ 10 อังเกลา แมร์เคิล
นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งเยอรมนีรายนี้เคยถูกจัดอันดับจากนิตยสาร forbes ว่าเป็นสตรีที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก เนื่องจากผลงานของเธอโดดเด่นไม่แพ้ผู้ชายเลยทีเดียว อีกทั้งเธอยังเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรียุโรปและประธานกลุ่มประเทศจีแปดอีกด้วย
อันดับ 9 อองซาน ซูจี
หญิงแกร่งจากประเทศพม่า เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ พ.ศ. 2534 จากการต่อสู้กับรัฐบาลของพม่า เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
อันดับ 8 จูเลีย โรเบิร์ต
ด้วยความที่ภาพลักษณ์ที่ดูดี ไม่เคยมีข่าวเสียๆ หายๆ แถมยังเป็นดาราของสังคม ที่มักจะคอยให้เงินบริจาค หรือออกพื้นที่ช่วยเหลือสังคมอยู่เป็นประจำ เลยทำให้เธอคนนี้ได้ใจของคนทั่วโลกไปแบบเต็มๆ ดูได้จากการที่ไม่ได้มีผลงานมากว่า 5 ปี แต่แฟนๆ ก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตารอคอยผลงานภาพยนตร์ดีๆ ระดับคุณภาพจากเธอคนนี้อยู่
อันดับ 7 โอปราห์ วินฟรีย์
เธอเป็นพิธีกรผิวสีที่โด่งดังขึ้นมาจากรายการ The Oprah Winfrey Show ซึ่งเป็นทอล์คโชว์ที่มีเรตติ้งสูงที่สุด อีกทั้งยังทำให้เธอกลายเป็นสตรีชาวแอฟริกันที่รวยที่สุดอีกด้วย อีกทั้งเธอยังตั้งมูลนิธิ Oprah’s Angel Network เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปทั่วโลก และมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนนักศึกษาที่ขาดแคลนทั้งในและนอกสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องมาหลายสิบปี
อันดับ 6 เซลีน ดิออน
นักร้อง นักประพันธ์ดนตรี และนักแสดงชาวแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศสคนนี้แน่ เพราะ เพลง My Heart Will Go On ที่ประกอบหนังเรื่อง Titanic ของเธอนั้นดังและติดหูคนไปทั่วโลก และเหตุการณ์ที่ทำให้หลายคนชื่นชมเธอเอามากๆ ก็คือครั้งที่เธอนั้น ประกาศยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ต และงานโชว์ตัวต่างๆ ในเอเชียด้วยเหตุผลที่ว่า เธอต้องการอยู่กับสามีของเธอที่กำลังเข้ารับการรักษาตัวหลังเผชิญกับโรคร้ายอย่าง มะเร็ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอรัก และอยากดูแลสามีของเธอที่ช่วงเวลาเลวร้ายนั้นเอง เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ได้ใจแฟนๆ ไปเต็มๆ เลย
อันดับ 5 มิเชล โอบาม่า
เธอเป็นผู้หญิงแอฟริกัน-อเมริกันผู้เต็มเปี่ยมด้วยความแข็งแกร่ง ทำหน้าที่เป็นคุณแม่ลูกสอง เป็นภรรยาอันแสนน่ารัก และเธอยังเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งที่เพียบพร้อม!!! ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ที่กดดันมากแค่ไหน แต่เธอก็ยังคงความถ่อมตัว ความรัก และความจริงใจกับคนรอบข้างอย่างไม่ขาด ที่สำคัญเธอดูแลครอบครัวของเธอได้อย่างสมบูรณ์ แต่ขณะเดียวกันก็ยังไม่ลืมที่จะดูแลผู้คนในประเทศอีกนับล้าน
อันดับ 4 ควีนเอลิซาเบธที่ 2 สหราชอาณาจักร
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง ทรงเป็นพระมหากษัตริย์อังกฤษที่ครองราชย์ยาวนานที่สุด ถึง 60 ปี และมีอายุมากถึง 83 ปี พระองค์นั้นทรงเริ่มต้นปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจครั้งแรกเมื่อพระชนมายุเพียง 16 พรรษา นอกเหนือจากการที่ทรงเป็นประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรแห่งอังกฤษอย่างเป็นทางการแล้ว พระองค์ยังทรงเลื่อมใสในคริสตจักรแห่งอังกฤษและคริสตจักรแห่งสกอตแลนด์เป็นการส่วนพระองค์อีกด้วย ด้วยพระราชกรณียกิจที่มากมายนั้น ทำให้ไม่แปลกเลยที่พระองค์จะเป็นที่รักของคนทั่วโลก
อันดับ 3 ฮิลลารี คลินตัน
ก่อนจะมาโด่งดังเธอเคยเป็นทนายความด้านทรัพย์สินทางปัญญา หลังจากนั้นเมื่อสามีอย่างบิล คลีนตันได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐเมื่อปี 2521 และอยู่ในตำแหน่งนานถึง 12 ปี เธอก็ได้เริ่มสร้างความนิยมชมชอบจากประชาชนจนกลายเป็นที่รักของประชาชนในที่สุด
อันดับ 2 มะลาละห์ ยูซัฟซัย
เธอคนนี้เป็นเพียงเด็กหญิงชาวปากีสถานที่มีอายุเพียง 17 ปี ที่ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจในการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิสตรี ที่กลุ่มตาลีบันห้ามเด็กหญิงมิให้เข้าศึกษาในโรงเรียน ทำให้เธอต้องสู้ และยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง จนในที่สุดความปรารถนาของเธอก็สำฤทธิ์ผล เพราะเธอได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลสันติภาพเด็กระหว่างประเทศ โดยเดสมอนด์ ตูตู และได้รับรางวัลสันติภาพเยาวชนแห่งชาติเป็นคนแรกของปากีสถาน ในวันที่ 10 ตุลาคม 2557 มูลนิธิโนเบลได้ประกาศให้เธอได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ร่วมกับ Kailash Satyarthi จากการต่อสู้ของเด็กเพื่อความถูกต้องของการศึกษาในเด็กทั้งหมด ถือเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลที่อายุน้อยที่สุดในโลก
อันดับ 1 แองเจลิน่า โจลี่
ดาราสาวผู้นี้กลายเป็นคนดังแห่งยุคไปแล้ว ด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมของเธอประกอบกับบทบาทที่เธอทำงานให้กับองค์การสหประชาชาติ เพื่อผู้ลี้ภัย รวมไปถึงเธอได้ช่วยเหลือเด็กยากไร้ต่างๆ ทั้งการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมมากมาย นอกจากนั้นหลายคนยังบอกอีกว่าเธอนั้นน่ารัก และใส่ใจกับเหล่าแฟนคลับอยู่เสมอ
เชื่อว่าเพื่อนๆคงรู้จักกับผู้หญิงเหล่านี้นะครับ เพราะว่าชื่อเสียงของเธอโด่งดังไปทั่วโลกเลยหล่ะ
วันนี้เราขอลาไปเพียงเท่านี้นะครับผม แล้วกลับมาพบกับวาไรตี้ๆจาก Scholarship.in.th นะครับผม
ที่มา postjung