Elon Musk เศรษฐีหนุ่มอัจฉริยะ…ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวละคร Tony Stark

ใครจะไปรู้กันหล่ะครับว่าหนังชื่อดังอย่างไอร่อนแมนไม่ได้สร้างมาจาดจินตนาการของผู้เขียน แต่ถูกสร้างมาจากเรื่องราวชีวิตของเศรษฐีหนุ่มนามว่า Elon Musk

Elon Musk เป็นลูกครึ่งแคนาดาและแอฟริกาใต้ โดยแม่ของเขาเป็นชาวแคนาดา(อาชีพนักโภชนาการ) พ่อของเขาเป็นชาวแอฟริกาใต้(อาชีพวิศวกร) Elon เป็นหนอนหนังสือตั้งแต่เด็กๆ เมื่อเขาอายุ 12 ปี เขาได้สร้างเกมชื่อ Blastar และสามารถขายได้ราว 500 Dollar(ประมาณ 15,000 บาท)

ตอนเขาอายุ 17 ปีก็ย้ายจากแอฟริกามาอยู่ในแคนาดา พร้อมกับการเรียนปริญญาตรีถึง 2 สาขา พร้อมกัน ได้แก่ เศรษฐศาสตร์และฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยเพนสิวาเนีย จากนั้นในเพียงแค่อายุ 24 เขาก็ได้เข้าเรียนในระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง Stanford แต่เขาเรียนได้แค่ 2 ปีก็ลาออกซะแล้ว เนื่องจากเขาต้องการที่จะออกไปทำธุรกิจ

เขาเริ่มทำธุรกิจด้วยตนเองจากการสร้างซอฟต์แวร์สิ่งพิมพ์ออนไลน์ ชื่อ Zip2 ซึ่งถือว่าล้ำสมัยมากในยุคที่อินเตอร์เน็ตยังไม่แพร่หลาย ไม่กี่ปีต่อมาบริษัทของเขาก็เนื้อหอมจนมีผู้ขอซื้อไป และทำรายได้ให้เขาถึง 307 ล้านเหรียญ (9,021ล้านบาท) ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุเพียง 28 ปีเท่านั้น

แต่เขาก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เขาคิดค้นระบบการชำระเงินออนไลน์ และการชำระเงินผ่านอีเมลล์ชื่อว่า X.com(เป็นจุดเริ่มต้นระบบการชำระเงินออนไลน์ เช่นเดียวกับ paypal paysbuy ในปัจจุบัน) และขายกิจการไปให้แก่ eBay ในปี 2002 อีก 165 ล้านเหรียญ (4,950ล้านบาท)

Elon คิดว่าเงินไม่ใช่คำตอบที่เขาเฝ้าใฝ่ฝัน ในวัย 30 กะรัตเขาจึงอยากจะเติมความฝันในวัยเด็กด้วยการก่อตั้งโครงการ SpaceX เป้าหมายคือ การตั้งรกรากบนดาวอังคาร อีกทั้งเขายังเป็นเจ้าของกิจการรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง Tesla และ Solarcity ผู้ติดตั้งแผงโซลาร์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา และทำให้ทรัพย์สินของเขาทั้งหมดมีมากถึง 7,700 ล้านเหรียญ (2.31แสนล้านบาท)

คุณสมบัติของ Elon คือ คนหนุ่ม อัจฉริยะ ผู้มีความกระหายในการสร้างเทคโนโลยี ที่จะเปลี่ยนแปลงโลก นี่เองเป็นจุดที่ทำให้ Jon Favreau ผู้กำกับหนังฟอร์มยักษ์ Ironman ประกาศต่อสาธารณชนว่า Elon คือ ต้นแบบที่เขานำมาสร้าง “Tony Stark” เศรษฐีหนุ่มอัจฉริยะ พระเอกของเรื่อง เขานับถือ Elon มากถึงขนาดที่เชิญ Elon ไปเข้าฉากพบกับ Tony Stark ในหนังเรื่อง Ironman 2 ซี่งออกฉายจริงด้วย

.

วันนี้ก็ต้องขอลากันไปเพียงเท่านี้ แล้วกลับมาพบกับวาไรตี้ดีๆอัพเดททุกวันกับ Scholarship.in.th กันนะครับ

ที่มา : kiitdoo