ถ้าพูดถึงหัวกะทิแล้วต้องบอกว่า ใช้ทำแกงได้หลากหลายชนิดมากเลยแหละ ! ฮิ้วววว เอ่อ… ไหวมั้ย หัวกะทิในที่นี้หมายถึง พวกเด็กเทพ เด็กธรรมดาก็เปรียบเสมือนกะทิ หัวของกะทิ ก็คือการคั้นเอาความฉลาดของพวกกะทิทั้งหมด มารวมเป็นหัวหน้ากะทิ เรียกย่อๆว่า “หัวกะทิ” นั่นเอง
แล้วการที่จะเป็นหัวหน้ากะทิ เอ้ย หัวกะทิ ได้นั้น มันต้องมีเคล็ดลับและกระบวนการ วันนี้เราจะเอาความลับของหัวกะทิมาเผยแพร่ให้แก่ทุกคนที่ต้องการอัพสกิลของตัวเอง
1.ชีวิตต้องมีเป้าหมายชัดเจน
เคล็ดลับสำคัญของคนเรียนดีและเรียนเก่งคือมีเป้าหมายอยู่ในใจนั่นเอง น้องๆต้องวางเป้าหมายก่อนว่าเราต้องการยืนอยู่ ณ จุดไหนของการเรียน เปรียบเทียบเหมือนกับภูเขา เราจะยืนอยู่ยอดเขา ไหล่เขา หรือเชิงเขา ถ้าน้องอยากเรียนให้ได้ Top 10 ของห้องก็ค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงยอดเขา การวางเป้าหมายไม่ใช่การกดดันตัวเองแต่เป็นการวางแผนเพื่อพยายามไปให้ถึงจุดนั้น ด้วยการลงมือทำอย่างมั่นคงและรู้หน้าที่ว่าเราควรทำอะไร จะได้ไม่เป็นเพียงความฝันลอยๆนะ
2. รู้จักวางแผนการเรียน
การวางแผนการเรียนโดยจัดทำในรูปแบบตารางหรือปฏิทินการเรียนนับเป็นเครื่องมือชั้นยอดที่ทำให้ใครหลายคนประสบความสำเร็จมานักต่อนักแล้วนะคะ น้องๆอาจใส่เป็นข้อมูลคร่าวๆเพื่อบอกให้รู้ว่าแต่ละวันใน 1 สัปดาห์ เรามีแพลนจะทำอะไรบ้าง เช่น อ่านหนังสือสอบ ทำรายงาน ทบทวนบทเรียน ฯลฯ การวางแผนล่วงหน้านี้จะช่วยเตือนความจำน้องๆเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นต้องทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับน้อง ม.6 ที่มีอะไรให้ทำเยอะแยะไปหมด แล้วน้องๆจะพบว่าทุกอย่างในชีวิตเราเป็นระเบียบมากขึ้น
3. แบ่งเวลาเป็น
คนเรียนเก่งมักจัดการกับชีวิตตัวเองได้แบบง่ายๆ แค่เพียงรู้จักแบ่งเวลาให้เป็น เวลาเรียนคือเรียน เวลาเล่นคือเล่น เวลาทบทวนคือทบทวน เรียนเก่งระดับท็อป ไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือตลอดเวลาหรือฝึกทำโจทย์ทุกครั้งที่มีเวลาว่าง แต่น้องๆควรรู้หน้าที่ว่าเวลานี้ควรจะทำอะไร บางคนขยันมากอ่านหนังสือตั้งแต่หกโมงเย็นถึงหกโมงเช้าหรือบางคนเครียดเหลือเกินเล่นเกมยันสว่าง สิ่งที่มากเกินไปไม่ใช่เรื่องดี สิ่งที่น้อยเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีอีกเช่นกัน น้องๆต้องรู้ลิมิตของตัวเองนะว่าเรียนเท่าไหร่เล่นเท่าไหร่ถึงจะพอดี
4. ในห้องเรียน “ตั้งใจฟัง”
ทุกคำพูดที่ครูสอนทั้งเรื่องในบทเรียนและนอกบทเรียน น้องๆควรคิดตามและพยายามทำความเข้าใจไปพร้อมกันนะ สิ่งที่เพื่อนเรียนเก่งระดับท็อปมี คือความเอาใจใส่และมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเรียน ถ้ารู้จักพัฒนาศักยภาพตั้งแต่ในห้องเรียนด้วยการเก็บความรู้ เทคนิค หรือสิ่งที่ครูเน้นย้ำบ่อยๆให้ได้ทุกเม็ด น้องๆจะค้นพบเองว่าการเรียนไม่ใช่เรื่องยาก เราตั้งใจฟังจนเข้าใจตั้งแต่อยู่ในห้องพอกลับมาทบทวนอีกครั้งสิ่งที่เราเข้าใจก็ยังคงอยู่ และสิ่งที่อยู่ในข้อสอบก็ล้วนแต่ออกมาจากสิ่งที่ครูพร่ำสอนทั้งนั้น
5. จดสรุปด้วยตนเอง
ความเข้าใจจากใครก็ไม่สู้ความเข้าใจจากตัวเราเอง ยืมสมุดโน้ตจากใครมาซีร็อกซ์ก็ไม่สู้สมุดโน้ตที่จดด้วยลายมือเราเอง จากประสบการณ์ตรงของน้องหลายคนที่เรียนเก่งนะ ทุกคนจะมีเคล็ดลับการเรียนแตกต่างกันไป บางคนถนัดอ่านแบบสะสมค่อยๆจดสรุปโน้ตไปเรื่อยๆ บางคนเก็บไว้อ่านพร้อมทำสรุปทีเดียวตอนช่วงก่อนสอบ แต่สิ่งที่ทุกคนทำเหมือนกันคือจดสรุปด้วยภาษาด้วยความเข้าใจของตัวเราเอง อาจใช้เวลาสักหน่อยแต่สิ่งที่เราจดจะค่อยๆซึมซับเข้าไปในสมองพอกลับมาอ่านอีกครั้งก็เหมือนได้ทวนความรู้สำคัญๆอีกรอบหนึ่งนั่นเอง
6. ทวนบทเรียนเป็นประจำ
หลังจากเรียนเสร็จแต่ละวิชาควรกลับมาทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอนะ เพราะตอนเรียนสมองของเราถูกใช้งานอย่างหนัก บางช่วงอาจมีอาการเบลอไม่สามารถทำความเข้าใจบทเรียนได้ทั้งหมด การกลับมาทบทวนอีกครั้งจะทำให้น้องๆไม่ลืมสิ่งที่เรียนมา บทเรียนไหนที่เรายังไม่เข้าใจก็จะได้กลับมาถามคุณครูหรือให้เพื่อนช่วยอธิบายอีกครั้ง ถ้าปล่อยให้ไม่รู้ต่อไปจะยิ่งแย่เนอะ ความจริงการบ้านที่ได้รับมอบหมายก็สามารถช่วยได้นะ บางงานไม่เก็บคะแนนแต่ครูขอให้ทำหรืออ่านมาก่อนก็ควรทำตาม
7. ส่งการบ้านตามเวลาที่กำหนด
การส่งการบ้านให้ครบและตรงตามเวลาเป็นสิ่งที่นักเรียน Top 10 ของห้องไม่ควรพลาดเลยล่ะ เพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของเราเนอะ น้องบางคนทำการบ้านไม่เป็น อาจจะให้เพื่อนสอนก่อนเข้าเรียนแล้วรีบทำส่งแบบปริ้นท์ร้อนๆเสิร์ฟตรงถึงโต๊ะครูเลย อันนี้ก็ไม่ผิดนะ ถือว่ายังทันเวลา แต่น้องบางคนไม่ส่งการบ้านเลย ทำไม่ทันบ้าง กลัวทำออกมาไม่ดีบ้าง เลยเลื่อนออกไปเรื่อยๆ คะแนนเก็บของน้องก็จะโดนตัดออกไปเรื่อยๆเช่นกันนะ ดังนั้นทำการบ้านส่งครูเถอะ ยิ่งตั้งใจทำยิ่งได้คะแนนดี
8. เพิ่มเติมความรู้รอบตัว
ความรู้ไม่ได้สิ้นสุดอยู่ภายในห้องเรียนเท่านั้นนะ น้องๆควรเพิ่มเติมความรู้ใหม่ๆทั้งในและนอกห้องเรียนอยู่เสมอ บางคนเลือกเข้าห้องสมุดเพื่อพบกับหนังสือน่าสนใจหลากหลายเล่ม บางคนเลือกเข้าห้องแนะแนวเพื่อค้นหาตัวเองและเตรียมตัวสำหรับช่องทางการศึกษาในอนาคต บางคนเลือกเข้าห้อง e-Learning เพื่อช่วยเรื่องการเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่งที่อาศัยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทันสมัย บางทีการดูสารคดีหรือภาพยนตร์ก็นับเป็นการเพิ่มเติมความรู้อีกวิธีหนึ่งเช่นกัน เพราะความรู้อยู่รอบตัวเรา
9. คิดเป็นตั้งคำถามเป็น
หนึ่งในวิธีที่ทำให้การเรียนประสบความสำเร็จคือน้องๆต้องรู้จักคิดตามและตั้งคำถามให้เป็น การคิดตามในสิ่งที่ครูสอนจะทำให้รู้ว่าจุดไหนที่เราเข้าใจ จุดไหนที่เรายังไม่เข้าใจ ทำให้เกิดการตั้งคำถามและนำไปสู่การค้นหาคำตอบของสิ่งที่เราสงสัย วิธีค้นหาคำตอบนี่แหละค่ะที่จะทำให้น้องๆเก่งขึ้น ได้รับความรู้เพิ่มเติมมากขึ้น น้องบางคนอาจเลือกยกมือถามคุณครูในห้องเรียนก็เป็นวิธีที่ดี เพราะนอกจากเราจะเข้าใจแบบกระจ่างแล้วเพื่อนในห้องก็จะเข้าใจด้วย การหาความรู้จากแหล่งข้อมูลอื่นก็ช่วยได้เช่นกัน
10. มีความสุขกับการเรียน
ความสุขกับการเรียนเป็นสิ่งสำคัญนะคะ ถ้าเราเรียนอย่างไม่มีความสุขผลลัพธ์มักจะออกมาไม่ดีเสมอ ดังนั้นเรามาเริ่มต้นกันจากเรื่องง่ายๆ เช่น ความสุขสร้างได้จากวิชาที่ชอบ สำหรับวิชาที่ไม่ชอบให้น้องๆมองว่าเป็นเพียงโจทย์ที่ท้าทาย รอให้เราสนุกไปพร้อมกับมัน ถ้าเรามีความสุขเค้าก็จะอยู่ข้างเรา การเรียนให้ติด Top สักวิชาใดวิชาหนึ่งไม่ใช่เรื่องยาก อย่างน้อยวิชาที่ชอบควรทำเกรดให้ดี ส่วนวิชาที่ยากแต่มีหน่วยกิตสูง ถ้าเอาใจใส่เป็นพิเศษ ลองพยายามดูสักตั้ง คะแนนจะช่วยดึงเกรดเราให้เพิ่มขึ้นเอง
โอ้โห ต้องบอกเลยว่าเป็นเทคนิคง่ายๆสำหรับพวกกะทิอย่างเราๆเลยนะเนี่ย อ่านปุ๊บก็รู้ว่าจะทำให้เราสำเร็จวิทยายุทธขั้นสูงได้เลยทีเดียว ปัญหาหลักคือ ควบคุมใจตัวเองไม่ได้ซักทีเนี่ยแหละ เห้อ ให้เป็นหัวเผือก หัวมัน ยังง่ายกว่าหัวกะทิอีก !! ตั้งแต่นี้ต่อไปแอดมินจะต้องมีระเบียบวินัยมากขึ้นกว่านี้ให้ได้ หวังว่าเพื่อนๆทุกคนจะเริ่มใหม่ไปพร้อมกันนะค้าาา
source: sanook.com