แน่นอนว่าในการใช้ชีวิตประจำวันของเรานั้น เสื้อผ้าก็ย่อมต้องไปสัมผัสคราบต่างๆ บ้างทั้งคราบเปื้อนน้ำมัน คราบจากอาหารหรือเครื่องดื่ม ซึ่งก็ทำเอาเราปวดหัวกันเป็นประจำสำหรับการขจัดคราบเหล่านี้
สำหรับวันนี้เราก็มีบทความดีๆ เกี่ยวกับ 10 เทคนิคดีๆ ในการขจัดคราบต่างๆ ให้ได้ประสิทธิภาพที่สุด มาศึกษากันไว้นะจ๊ะ ทีนี้ก็ไม่ต้องเครียดกันแล้ววววว
1.คราบแกง…
นำเสื้อผ้าที่เปื้อนคราบแกงนั้นไปแช่น้ำในน้ำเย็น โดยแช่ไว้ประมาณ 3-10 นาที แล้วนำสบู่มาถูที่คราบเปื้อนเบาๆ จากนั้นนำไปซักตามปกติ คราบแกงก็จะหายไป แต่ถ้าทิ้งไว้จนเป็นคราบฝังแน่น ก็ให้ใช้น้ำมันเบนซินเช็ดบริเวณคราบเปื้อน ขยี้เบาๆ จากนั้นจึงใช้น้ำแอมโมเนียผสมน้ำเจือจาง เช็ดซ้ำๆ จนกว่าคราบแกงจะหายไป แล้วจึงนำไปซักตามปกติ
2. คราบไอศกรีมช็อคโกแลต …
ใช้กลีเซอรีนทาทิ้งไว้บริเวณที่เปื้อน แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นกึ่งร้อนอีกครั้ง ป้ายน้ำยาซักผ้าสูตรเข้มข้นลงบนคราบ ทิ้งไว้ซักพัก แต่ถ้าคราบมีขนาดใหญ่มาก ก็แช่ผ้ากับน้ำยาซักผ้าสูตรเข้มข้น ทิ้งไว้ซักพัก จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น โดยให้น้ำไหลผ่านคราบแรงๆ ซักตามปกติ
3. คราบเลือด…
ที่สำคัญคือต้องรีบขจัดออกทันที อย่าทิ้งไว้ ใช้กระดาษซับเลือดออกให้ได้มากที่สุด จากนั้นก็นำเสื้อไปแช่กับน้ำเย็นจัด เพื่อป้องกันโปรตีนในเลือดจับตัวฝังแน่น ใช้น้ำยาซักผ้าสูตรเข้มข้นป้ายลงไปบนคราบ เสร็จแล้วก็ลงมือขยี้ผ้าเบา ๆ เพื่อกำจัดคราบถ้าคราบเลือดชนิดแห้งกรัง ให้ลองใช้ไฮโดรเจนเปออ็อกไซด์เมื่อคราบจางหมดแล้ว ให้นำไปซักตามปกติ
ขจัดคราบเหงื่อไคลทำได้หลายวิธี สามารถเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 อย่างนี้
– ผสมน้ำกับน้ำมะนาวอย่างละเท่าๆ กันทาที่คราบทิ้งไว้ซักพัก
– หรือ ผสมเกลือกับน้ำร้อน แล้วใช้ฟองน้ำชุบน้ำเกลือไปขัดที่คราบ ทิ้งไว้ซักพัก
– หรือ บดยาแอสไพริน 2 เม็ดผสมน้ำอุ่นทาที่คราบทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้น ก็นำไปซักตามปกติ
5. คราบหมึก…
ใช้น้ำส้มสายชูกลั่นในห้องครัวมาราดลงบนคราบเปื้อนโดยตรงเลย ทิ้งไว้สัก 10 นาที
บีบน้ำยาล้างจานลงไปบนคราบเปื้อนสัก 2-3 หยด จากนั้นก็ใช้นิ้วมือค่อยๆ ขจัดคราบเปื้อนเบาๆ ทิ้งไว้อีก 5 นาที เสร็จแล้ว ก็นำไปล้างผ่านน้ำเย็น ระหว่างนั้นจะใช้สบู่มาขัดทำความสะอาดคราบเปื้อนร่วมด้วยก็ได้
6. คราบน้ำมัน…
ใช้แป้งโรยไปบนคราบ เพื่อให้แป้งดูดซับน้ำมันออกจากเสื้อผ้า ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางๆ วางทับลงบนคราบที่เปื้อน นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้งดูด คราบออกหมดหลังจากนั้นจึงนำไปซักตามปกติ
7. คราบน้ำสลัด…
ใช้ช้อนหรือมีด มาขูดคราบให้จางลงก่อนเท่าที่จะทำได้ แต่ให้ระวัง อย่าขูดแรงเกินไปเพราะจะทำให้เนื้อผ้าได้รับความเสียหาย ใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่มีประสิทธิภาพขจัดคราบ ทาหรือฉีดลง บริเวณที่มีคราบให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ หรือซึมลงไปในคราบอย่างทั่วถึง
8. คราบแยม…
ใช้ช้อนค่อยๆ ขูดคราบเปื้อนที่ยังไม่ได้ซึมลงไปในเสื้อผ้าออกให้ได้มากที่สุด ระวังอย่าให้เนื้อผ้าได้รับความเสียหาย จากนั้นผสมผงบอแร็กซ์หรือเบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ กับน้ำสะอาด 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันจะได้เนื้อครีมข้น ๆ แล้วใช้ช้อนตักส่วนผสมไปป้ายลงบนคราบให้ทั่ว ป้ายลงไปให้หนา ๆ เพื่อให้ดูดซับคราบเปื้อนจากแยมหรือผลไม้ได้ดียิ่งขึ้น
9. คราบซอสมะเขือเทศ…
ควรขูดซอสมะเขือเทศออกก่อน เทน้ำเย็นราดลงบนด้านหลังคราบเปื้อนทันที ให้น้ำเย็น ไหลผ่านคราบเปื้อนอย่างช้าๆ ถ้าเป็นผ้าขาวให้ใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำยาซักผ้าป้ายลงบนคราบ แต่ถ้าเป็นผ้าสี ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกซ์ไซด์หรือน้ำยาฟอกขาว ผสมลงไปในน้ำยาซักผ้าแล้วป้ายลงไป บนคราบ แต่ควรตรวจสอบอาการสีตกก่อน
10. คราบไอศกรีม…
ต้องรีบล้างคราบไอศกรีมด้วยน้ำเย็นทันที โดยแช่ผ้าในน้ำเย็นนาน 5-10 นาที หากคราบไอศกรีมยังคงหลงเหลืออยู่ ให้ป้ายน้ำยาซักผ้าที่มีคุณสมบัติในการขจัดคราบ ลงไปบนคราบให้ทั่ว จากนั้นนำผ้าไปแช่น้ำอุณหภูมิปกตินาน 30 นาที ในขณะที่แช่ผ้าอยู่ ควรใช้นิ้วมือขยี้คราบเบา ๆ ทุก 3-5 นาที จากนั้นค่อยนำผ้ามาล้างน้ำสะอาด
และนี่ก็คือ 10 วิธีเจ๋งๆ ในการขจัดคราบบนเสื้อผ้าในแบบต่างๆ นะจ๊ะ คราวหลังถ้าเกิดคราบเหล่านี้ก็จัดการกันให้ถูกวิธีล่ะ ^^
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก Women.Mthai