สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เชื่อว่าหลายๆคนคงมองข้ามคำเล็กๆอย่าง always ไป แต่ก็อาจจะรู้สึกตะหงิดใจทุกครั้งที่ต้องเขียนคำนี้ ว่า verb ที่ต่อท้ายต้องเปลี่ยนรูปไหม หรือ ก่อนหน้า always ต้องมี V. to be หรือเปล่า วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยของเพื่อนๆทุกคนกันเลยค่ะ
การใช้ always
always เป็น adverb of frequency หรือคำบอกความถี่ แปลว่า “สม่ำเสมอ, เป็นประจำ” ซึ่งโดยปกติเรามักจะใช้ always คู่กับประโยค present simple tense เพื่อบอกถึงสิ่งที่เราทำซ้ำซาก จำเจ ทำสม่ำเสมอ (habitual actions) ในปัจจุบัน เช่น
– They are always kind to me.
– We always satisfy our customers.
– She always goes without saying goodbye.
– My mom always tells me to be careful when I drive.
ตำแหน่งในการวาง always คือวางไว้หน้าคำกริยาในประโยค แต่ถ้าประโยคนั้นมี verb to be ก็ให้วางไว้หลัง verb to be
แต่ทราบหรือไม่ว่า always ก็ใช้คู่กับ present continuous tense ได้ แต่ความหมายที่สื่อออกมามันจะเปลี่ยนไป มันจะแปลได้ว่า สิ่งที่ทำสม่ำเสมอหรือซ้ำซากนั้นทำให้เรารำคาญหรือมีผลกระทบในทางที่ไม่ดีกับเรา เช่น
– He is always looking at me.
เขาชอบมองฉันบ่อยๆ
(ซึ่งการมองนี้ไม่ได้ทำให้คนถูกมองยินดีปรีดาแต่อย่างใด แต่เป็นในเชิงน่ารำคาญเสียมากกว่า)
– You are always pretending to love me.
คุณชอบเสแสร้งทำเป็นรักฉัน (แต่จริงๆแล้วอาจจะไม่ได้รัก ซึ่งทำให้ฉันรำคาญหรือเสียใจหรือน้อยใจ)
– You are always complaining about silly things.
เธอน่ะชอบบ่นเรื่องอะไรที่มันงี่เง่า (ซึ่งมันน่ารำคาญ)
ตำแหน่งในการวาง always ก็เช่นเดิม คือให้วางไว้หน้า verb ในประโยค และสิ่งที่ควรระวังเมื่อใช้ always คือ หลัง always ต้องมี s เสมอ เพราะบางคนชอบเขียน alway แบบนี้ค่ะ และถ้าหากประธานเป็นเอกพจน์ กริยาก็ต้องเติม s ด้วย เพราะบางคนคิดว่ามี s ที่ always แล้ว กริยาไม่ต้องเติม s แล้ว อันนี้มีคนเคยเขียนผิดมาแล้ว เช่นถ้าประโยคคือ
– He always eats after midnight. ไม่ใช่ He always eat after midnight.
ที่มา: pasaangkit