ประเทศญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการยอมรับเรื่องมาตรฐานการศึกษาอันดับต้นๆ ในเอเชีย ทั้งยังติดอันดับโลก ในแต่ละปีมีนักศึกษาจากทั่วโลกเดินทางไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะในระดับปริญญาตรี โท หรือเอก รวมถึงคอร์สเรียนภาษาระยะสั้น
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังวางแผยเรียนต่อในดินแดนอาทิตย์อุทัย นี่คือทุกเรื่องที่คุณควรรู้
การศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศญี่ปุ่น
ในญี่ปุ่นมีสถาบันทางการศึกษาที่มีชื่อเสียงมากมาย ทั้งวิทยาลัย มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยเทคโนโลยี 70% ของพลเมืองที่จบการศึกษาในระดับมัธยมปลายเลือกเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย นอกนั้นอีกบางส่วนเลือกทำงานและเข้าเรียนในโรงเรียนทางเลือก
สถาบันในญี่ปุ่นมีมาตรฐานด้านการศึกษาที่สูงมาก และเป็นหนึ่งในผู้นำของโลกด้านเทคโนโลยีและการวิจัยอันทันสมัย นอกจากความเฉียบแหลมทางเทคนิคแล้วมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นยังได้รับการยกย่องในสาขาวิชาการอื่นๆ เช่นรัฐศาสตร์ ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัย 13 แห่งเปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษ เพื่อรองรับนักศึกษาต่างชาติ
แต่ละปีมีนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 130,000 คนที่เดินทางมาเรียนที่นี่ ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล
มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น
ในญี่ปุ่นมีมหาวิทยาลัยมากถึง 618 แห่งที่เปิดสอนหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
– มหาวิทยาลัยแห่งชาติ 86 แห่ง
– มหาวิทยาลัยของรัฐ 75 แห่งก่อตั้งโดยหน่วยงานท้องถิ่น
– มหาวิทยาลัยเอกชน 457 แห่ง
มหาวิทยาลัยญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกด้วยจำนวน 13 โรงเรียนใน 400 อันดับแรกของโลก
ค่าเล่าเรียน
ค่าเล่าเรียนสำหรับหลักสูตรปริญญาโทเริ่มต้นที่ 9,000 – 15,000 ดอลลาร์ฯ ต่อปี (ประมาณ 291,000 – 485,000 บาท)
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นและมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นมีการสนับสนุนทุนการศึกษาและการกู้ยืมอื่นๆ อีกมากมาย หลักสูตรส่วนใหญ่สอนเป็นภาษาญี่ปุ่นดังนั้นผู้เรียนส่วนมากจึงมักต้องเรียนปรับภาษาก่อน 1 – 2 ปีก่อนเริ่มเรียนจริงจัง
ปีการศึกษา
การเรียนในญี่ปุ่นจะเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนมีนาคม โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ภาคเรียน โดยภาคเรียนแรกจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน และภาคการศึกษาที่สองจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม
ตามปกติแล้ว ฤดูร้อนจะเริ่มขึ้นราวๆ ปลายเดือนสิงหาคม ส่วนฤดูหนาวจะอยู่ในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม และฤดูใบไม้ผลิจะอยู่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนเมษายน
โอกาสหลังจบการศึกษา
มีโอกาสมากมายสำหรับนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทเพื่อทำงานในอุตสาหกรรมหรือดำเนินการวิจัยหลังจากเรียนจบ
ในปี 2012 นักศึกษาต่างชาติเกือบ 8,000 คนในญี่ปุ่นพบว่ามีงานทำหลังจากสำเร็จการศึกษา นักเรียนต่างชาติจะต้องได้รับข้อเสนองานเพื่อให้สามารถขอวีซ่าเปลี่ยนสถานะการอยู่อาศัยจากนักเรียนเป็นการทำงาน
ข้อกำหนดในการขอวีซ่า
นักเรียนต่างชาติจะต้องมีวีซ่า นักเรียนที่ลงทะเบียนในหลักสูตรปริญญาโทมีสิทธิ์ได้รับสถานะที่อยู่อาศัยของนักศึกษาวิทยาลัย
ผู้เรียนสามารถยื่นขอวีซ่าโดยตรงผ่านสถานทูตญี่ปุ่นหรือสถานกงสุลในประเทศ หรือสถาบันการศึกษาที่วางแผนที่จะศึกษา โดยสามารถสมัครเพื่อขอรับใบรับรองคุณสมบัติ
เมื่อผู้เรียนมีใบรับรองคุณสมบัติแล้วพวกเขายังจะต้องได้รับวีซ่าจากสถานทูตหรือสถานกงสุลญี่ปุ่นประจำประเทศบ้านเกิดเพื่อให้สามารถเข้าประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย
นอกจากวีซ่า นักเรียนต่างชาติจะต้องลงทะเบียนเป็นคนเข้าเมืองภายใน 90 วันหลังจากเดินทางมาถึงญี่ปุ่นที่สำนักงานเทศบาลในพื้นที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ นักเรียนควรพกบัตรประจำตัวคนต่างชาติติดตัวตลอดเวลาเมื่อได้รับเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้
ประกันสุขภาพ
นักศึกษาต่างชาติมีสิทธิ์สมัครประกันสุขภาพแห่งชาติซึ่งครอบคลุมประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของค่ารักษาพยาบาล นอกจากนี้มหาวิทยาลัยบางแห่งยังมีแผนประกันสุขภาพพิเศษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
ในการรับประกันสุขภาพแห่งชาติ นักเรียนจะต้องใช้บัตรลงทะเบียนคนต่างชาติ ส่วนค่าธรรมเนียมสำหรับการประกันสุขภาพแห่งชาติแตกต่างกันไปตามท้องที่
ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดข้อมูลคร่าวๆ สำหรับผู้ที่สนใจอยากเรียนในประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ดังนั้นคุณควรติดตามความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ :)
ที่มา: masterstudies