ภาษาอังกฤษคือภาษาราชการที่พบได้มากที่สุดในโลก มันถูกเป็นที่ยอมรับในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ด้วยเหตุนี้เองภาษาอังกฤษในแต่ละประเทศจึงมีสำเนียงที่หลากหลายแตกต่างกันไป
และนี่คือวิธีการแยกลักษณะที่โดดเด่นของแต่ละสำเนียง เช่น แบบบริทิช แบบอเมริกัน แบบไอริช แบบออสเตรเลียน หรือแบบแคแนเดียน เป็นต้น ไปดูกันเลย!
British – Southern (Received Pronunciation หรือ RP)
ส่วนใหญ่ถูกพูดทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ และเป็นสำเนียงภาษาอังกฤษมาตรฐานของ BBC ตั้งแต่ปี 1992 หรือเป็นที่รู้จักว่าคือสำเนียง ‘broadcasting standard’ ลักษณะเด่นมีดังนี้
– ออกเสียงคำที่มีสระเสียง ‘a’ ยาวกว่าปกติ เช่น bath, grass และ palm
– สำเนียง RP จะไม่ลดระดับเสียง H ในการเริ่มต้นคำ เช่น herb
– คำเช่น news, due และ Tuesday จะออกเสียง J
– สามารถรับชมภาษาอังกฤษสำเนียงนี้ได้ผ่านซีรีส์ เช่น Downton Abbey (Amazon Prime) หรือ Friday Night Dinner (Netflix)
Scottish
สำเนียงภาษาอังกฤษแบบสก็อตแลนด์นั้นก็มีเยอะแยะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าอยู่ในโซนไหน แต่ส่วนใหญ่มักจะมีลักษณะเป็นที่จดจำได้ง่าย ดังนี้
– เสียง U จะกลายเป็นเสียง oo เช่น out และ about จะกลายเป็น oot และ aboot
– เสียง G มักจะไม่ออกเสียงในคำลงท้ายของประโยค เช่ evening จะกลายเป็น evenin
– การออกเสียงสองคำสั้นๆ มักจะถูกรวมกันเป็นเสียงเดียว เช่น did not จะกลายเป็น didnae หรือ dinnae
– To จะถูกออกเสียงว่า tae และ do จะถูกออกเสียงว่า dae และ no จะถูกออกเสียงว่า naw หรือ nae
– สามารถรับชมภาษาอังกฤษสำเนียงนี้ได้ผ่านภาพยนตร์และซีรีส์ เช่น Braveheart (1995) หรือ Howard (Netflix)
Welsh
สำเนียงนี้มักจะถูกอธิบายว่าเป็นสำเนียงที่คล้ายทำนองดนตรี มีจังหวะ มีความแข็งแกร่งแต่ก็อ่อนโยน ลักษณะเด่นมีดังนี้
– สระเสียง i จะถูกอ่านคล้ายสระเสียง e เช่น going กลายเป็น go-o-en
– เสียง R จะต้องม้วนลิ้น
– บางคำจะถูกเปลี่ยนแปลงและทำซ้ำ เช่น ‘I’m thirsty’ กลายเป็น ‘I’m thirsty, I am’ และ ‘I like that’ กลายเป็น ‘I like that, I do’
– สามารถรับชมภาษาอังกฤษสำเนียงนี้ได้ผ่านซีรีส์ เช่น Gavin & Stacey (Netflix)
Irish
จากการสำรวจของ CEO World Magazine ในปี 2018 พบว่าสำเนียงไอริชได้รับการโหวตให้เป็นสำเนียงภาษาอังกฤษที่น่าดึงดูดเป็นอันดับสองรองจาก RP British English ลักษณะเด่นของสำเนียงไอริชมีดังนี้
– เสียงสระนุ่ม
– มีเสียงพยัญชนะแน่นขึ้น เช่น think และ that จะอ่านเป็น tink และ dat ส่วนเสียง i จะกลายเป็น oi เช่น Ireland จะกลายเป็น Oireland
– เสียง G จะถูกลดเสียงลง เช่น ‘walking’ และ ‘talking’ กลายเป็น ‘walkin’ and ‘talkin’
– สามารถรับชมภาษาอังกฤษสำเนียงนี้ได้ผ่านซีรีส์ เช่น Carnival Row (Amazon Prime) และ Derry Girls (Northern Irish) ทาง Netflix
American
สำเนียงอเมริกันมักจะฟังออกได้ง่าย แต่ก็มีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาคระหว่างชายฝั่งตะวันออก (East Coast )กับชายฝั่งตะวันตก (Wesr Coasr) ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้
– คำที่มีเสียง -or เช่น horrible, horror, และ orange ทางฝั่ง west coast จะออกเสียงตามที่เห็น แต่ทางฝั่ง east coast จะออกเสียงเป็น ‘harrable’, ‘harrer’ และ ‘arnge’
– บ่อยครั้งที่เสียง -ir ในสำเนียงของทางฝั่ง east coast จะกลายเป็นเสียง -ar เช่น fire และ dryer จะกลายเป็น ‘far’ and ‘drar’
– คำที่มีเสียง O เช่น home ในฝั่ง west coast จะออกเสียงเหมือนที่เขียน แต่ทางฝั่ง east coast จะเพิ่มเสียง -ay เข้าไป
– สามารถรับชมภาษาอังกฤษสำเนียงนี้ได้ผ่านซีรีส์ หรือรายการทวีอเมริกันใดๆ ก็ได้ เช่น Friends หรือ How I Met Your Mother
Canadian
ปกติแล้วมันอาจฟังดูยากสักเล็กน้อยที่จะบอกความแตกต่างระหว่างสำเนียงอเมริกันและสำเนียงแคนาดา เพราะมันมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้
– คำที่มี -ou หรือ -ue มักจะออกเสียงเป็นเสียง -oo เช่น ‘about’ กลายเป็น ‘aboot’ และ ‘Tuesday’ กลายเป็น ‘Tooz-day’
– ตัวอักษร ‘z’ ออกเสียงว่า ‘zed’ ไม่เหมือน ‘zee’ ในสำเนียงอเมริกัน
– คำว่า Eh จะถูกอ่านว่า hay มากกว่า huh
– สามารถรับชมภาษาอังกฤษสำเนียงนี้ได้ผ่านซีรีส์ Fargo (Netflix)
Australian
เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ที่มีสำเนียงแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค แต่สำเนียงออสซี่ทั่วไปนั้นง่ายต่อการจดจำมากกว่า สำเนียงนี้ถูกพัฒนามากจากอาณานิคมทางตอนใต้ของอังกฤษ ลักษณะเด่นมีดังนี้
– คำเช่น ‘write’ และ ‘drive’ ที่มีเสียง i จะถูกออกเสียงเป็นเสียง oi มากกว่า แต่ไม่เน้นย้ำมากเกินไป
– เสียง A จะถูกทำให้ซอฟต์ลงกลายเป็นเสียง Aye คล้ายๆ กับเสีย Eye เช่นคำว่า Way และ Date
– เสียง T ในตอนท้ายของคำจะถูกแทนที่ด้วยเสียง Glottal stops เช่น หยุดคำลงท้ายเสียง R ด้วยเสียงในลำคออย่างเสียง ah จาก ‘shiver’ กลายเป็น ‘shiv-ah’ และ ‘car’ กลายเป็น ‘cah’
– สามารถรับชมภาษาอังกฤษสำเนียงนี้ได้ผ่านซีรีส์ Offspring (Netflix) หรือ Secret City (Netflix) เป็นต้น
แต่ละสำเนียงก็มีสเน่ห์และลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างกันไป แล้วเพื่อนๆ ล่ะ ชอบสำเนียงแบบไหนกัน? : )
ที่มา: kaplaninternational