คงไม่ต้องบอกหลายคนก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า การพนันคือการเดิมพันที่มีความเสี่ยงและบางครั้งความเสี่ยงที่ว่านี้ก็อาจนำมาซึ่งปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ เช่นหนี้สินเกินตัว ปัญหาในการใช้ชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกัน ที่ยังคงชื่นชอบการพนัน ทั้งเกมไพ่ต่างๆ บาคาร่า หรือแม้กระทั่ง เกมบิงโก
จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ scientificamerican.com พบว่า การเสพย์ติดการพนันนั้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของสมองและหลักการทางด้านจิตวิทยา ซึ่งในบทความนี้เราจะพาไปดูว่าจริงๆ แล้วสมองของคนปรกติ และคนที่ติดการพนันนั้นแตกต่างกันอย่างไร
สมองและจิตวิทยาการพนัน
ในเกมการพนันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพนันในรูปแบบปรกติ การเดิมพันผ่านเว็บ แทงหวย พนันกีฬา หรือบิงโกออนไลน์ ล้วนถูกสร้างขึ้นโดยอาศัยทฤษฎีของการเอาชนะ เนื่องจากโดยสัญชาติญาณและพันธุกรรมที่ถ่ายทอดกันมาของมนุษย์เรา สมองจะถูกออกแบบให้ใช้ความรู้สึกมากกว่าเหตุผล
ลองสังเกตดูก็ได้ บางครั้งเราเลือกทำบางสิ่งบางอย่างจาก ความชอบ หรือความเคยชิน มากกว่าการตัดสินใจจากเหตุผล ซึ่งเหล่านี้เป็นผลมาจากความกลัวที่ติดตัวเรามาตั้งแต่ยุคโบราณ ซึ่งเป็นสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดเมื่อเกิดอันตราย และการใช้ความรู้สึกต่างๆ ในการตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่าง ก็เป็นแรงขับจากภายในเพื่อให้เราเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ อีกทีหนึ่ง มากกว่าการใช้ความคิดเพื่อหาเหตุผล
ในเกมการเดิมพันยกตัวอย่างเช่นเกมไฮโล ผู้เล่นจะได้กระดานตัวเลขจำนวน 24 ตัวเลข โดยทำการสุ่มจากตัวเลข 100 ตัวเลข ที่แบ่งออกเป็นแถว โดยการถูกรางวัลจะต้องได้ตัวเลขเพียง 4 ตัวจากจำนวน 100 ซึ่งเท่ากับว่ามีโอกาสถูกมากถึง 1 ใน 25 เลยทีเดียว เมื่อเราเห็นโอกาสในการถูกรางวัลที่เป็นไปได้ สมองจะเกิดการตอบสนองด้วยความอยากในทันที
อ่านบทความ: 4 ช่องทางรวยด้วยโซเชียลมีเดีย!
ผลการวิจัยสมองของคนที่ติดการพนัน
จากการศึกษาการสแกนสมองด้วยเครื่อง MRI ระหว่างสมองของคนปรกติ และสมองของคนที่ติดการพนันพบว่ามีการทำงานที่แตกต่างกันอย่างชีดเจน โดยในการทดลองทางทีมวิจัยได้ทำการฉายภาพของเกมบิงโก ใน 3 กรณีคือ ถูกรางวัล, เกือบถูกรางวัล และ ไม่ถูกรางวัล
ผลการสแกนของคนที่ติดการพนันบิงโกออนไลน์พบว่า ในกรณีที่ผลของเกมบิงโกออกรางวัลเป็น “ถูกรางวัล” และ “เกือบถูกรางวัล” สมองของพวกเขาจะทำงานเหมือนกัน ซึ่งเมื่อทำการสัมภาษณ์ ในคนปรกติ เมื่อผลที่ออกมาเป็น “เกือบถูกรางวัล” สมองจะสั่งให้เลิกเล่น แทนที่จะเดิมพันต่อ แตกต่างจากคนที่ติดการพนัน จะคิดว่าตนยังมีโอกาสถูก และวางเดิมพันเรื่อยๆ
นั่นจึงเป็นสาเหตุให้การพนันรูปแบบต่างๆ มักจะมีโอกาสในการชนะที่ค่อนข้างมาก มีรูปแบบการเดิมพันที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกว่าตนเองสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเสี่ยงที่น้อยลง ก็ยิ่งทำให้ได้เงินรางวัลน้อยลงไปด้วย และยิ่งการพนันที่ไม่มีความเสี่ยงเลย ก็แทบจะไม่คุ้มที่จะเดิมพัน เหมือนประโยคคลาสสิคที่เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆ อย่าง “high risk high return” หรือเสี่ยงมากก็รวยมากนั่นเอง
จากการวิเคราะห์การทำงานของสมอง นอกจากรูปแบบในการเดิมพันที่ให้ผู้เล่นได้มีโอกาสลุ้นไปกับเกม ทำให้พวกเขารู้ว่ามีโอกาสที่จะถูกรางวัลใหญ่ จิตวิทยาตามหลักการที่เราพูดถึงยังถูกนำไปใช้ในการออกแบบบริการของคาสิโน ไม่ว่าจะเป็นคาสิโนแบบดั้งเดิม หรือคาสิโนออนไลน์ ที่พยายามทำให้ลูกค้าจดจ่ออยู่กับเกมมากที่สุด อย่างที่เราเห็นใมนโฆษณาเช่น ระบบฝาก-ถอน รวดเร็ว การเพิ่มโบนัสหรือโปรโมชั่นสำหรับผู้เล่นใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับหลักจิตวิทยาทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตามจากสิ่งต่างๆ เหล่านี้ หากมองในมุมกลับกันก็จะทำให้เราสามารถเข้าใจคนที่ติดการพนันได้ดียิ่งขึ้น และอาจช่วยอธิบายให้คนเหล่านั้นออกจากวังวนแห่งการเดิมพันได้…