สิ่งที่เราค้นพบจากกรีซโบราณนั้นล้วนแต่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง และมันก็ได้เป็นพื้นฐานสำหรับความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน
และนี่คือความรู้ความเข้าใจทางดาราศาสตร์อันน่าทึ่งที่กรีซโบราณได้ค้นพบ และมีข้อมูลที่ถูกต้องหรือใกล้เคียง เช่นเดียวกับวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันเลยล่ะ!
#1 ดาวเคราะห์โคจรรอบดวงอาทิตย์
Aristarchus of Samos ก็ได้อธิบายต่อว่าดวงอาทิตย์เป็น “ศูนย์กลางของไฟ” ถือเป็นทฤษฎี Heliocentric ที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันดีในระบบสุริยะ
น่าเสียดายที่หลักฐานเหล่านั้นได้หายไปในประวัติศาสตร์ จึงยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า Aristarchus รู้ได้อย่างไรว่าดวงอาทิตย์ใหญ่กว่าโลกและดวงจันทร์
อย่างไรก็ตามเหล่านี้คือการค้นพบที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันไม่ได้ถูกค้นพบจนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 16 โดย Nicolaus Copernicus
#2 ขนาดของดวงจันทร์
หนังสือเล่มหนึ่งของ Aristarchus ได้เปิดเผยเกี่ยวกับขนาดและระยะของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ในบทความที่น่าทึ่งนี้ Aristarchus ได้จัดทำการคำนวณขนาดและระยะทางที่สัมพันธ์กับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นครั้งแรก
จากเหตุผลที่เห็นว่าดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ได้สร้างรูปแบบเป็นสามเหลี่ยมมุมฉาก จึงทำให้ประเมินได้ว่าระยะทางของดวงอาทิตย์อยู่ระหว่าง 18 – 20 เท่าของระยะทางสู่ดวงจันทร์ เขายังคาดการณ์อีกว่าดวงจันทร์มีขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของโลกตามระยะเวลาที่เกิดจันทรุปราคา
#3 เส้นรอบวงโลก
Eratosthenes ผู้เป็นหัวหน้าบรรณารักษ์ที่ Great Library of Alexandria และเป็นนักทดลองที่กระตือรือร้น จากการทดลองของเขาจึงทำให้พบกับขนาดของโลก ด้วยการอาศัยการวัดความยาวของเงาที่แตกต่างกันบนเสาแนวตั้งในเวลาเที่ยงและในละติจูดที่แตกต่างกัน
ความแตกต่างของเงาจึงแสดงให้เห็นว่าพื้นผิวโลกโค้ง Eratosthenes ใช้สิ่งนี้ในการประมาณเส้นรอบวงโลกประมาณ 40,000 กม ซึ่งใกล้เคียงกับขนาดจริงที่กำหนดโดยวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
#4 เครื่องคิดเลขทางดาราศาสตร์ครั้งแรกของโลก
เครื่องคิดเลขเชิงกลที่เก่าแก่ที่สุดของโลกคือ Antikythera Mechanism ที่ถูกค้นพบในซากเรือโบราณนอกเกาะ Antikythera ในปี 1900
โดยมันใช้การทำงานด้วยระบบมือหมุนเพื่อแสดงเวลาเกิดขึ้นของจันทรุปราคาและตำแหน่งของดาวต่างๆ แม้จะยังไม่รู้ผู้ทราบเป็นที่แน่ชัด แต่มันก็เป็นกลไกที่ซับซ้อนและถูกค้นพบราวหนึ่งพันปีต่อมา
เหล่านี้ถือเป็นหลักฐานทางอารยธรรมที่น่าทึ่ง และยังได้รับการยกย่องในทางวิทยาศาสตร์ จนทำให้เกิดการค้นพบใหม่ๆ ขึ้นมาอีกด้วย เป็นความลับของโลกที่น่าค้นหาจริงๆ
ที่มา: livescience