คนทำชั่วก็ต้องได้รับโทษ คนทำดีก็ควรได้รับการยกย่องจริงไหมครับ สมัยนี้มีข่าวอาชญากรรมมากมายถูกตีแผ่ แต่โลกเราก็ยังมีมุมดีๆอยู่ให้เห็นตลอดนะครับอย่างคุณหมอหลี่จูหง ซึ่งต้องนับถือน้ำใจเธอจริงๆครับ
สื่อจีนเผยแพร่ภาพการทำงานของคุณหมอผู้ไร้ขาทั้ง 2 ข้าง ออกทำงานดูแลชาวบ้านตามหมู่บ้านในหุบเขามากกว่า 1,000 ชีวิต ในเมืองฉงชิ่งของจีนมากกว่า 15 ปี จำชื่อ คุณหมอท่านนี้เอาไว้ให้ดี เธอมีชื่อว่า หลี่ จูหง ปัจจุบัน อายุ 37 ปี เธอออกไปรักษาคนไข้ด้วยการใช้แขนยัน เก้าอี้ไม้ต่างเท้าในการเคลื่อนไหวร่างกายมากว่า 6,000 ครั้งตลอด 15 ปีที่ผ่านมา
คุณหมอหลี่ ไม่ได้พิการแต่กำเนิด แต่เพราะเหตุการณ์ในเย็นวันหนึ่งของเดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 1983 ขณะที่หนูน้อยหลี่ จูหง ในวัย 4 ขวบ กำลังเดินทางไปโรงเรียนเนิร์สเซอรี่ เธอถูกรถบรรทุกพุ่งชนและทับร่างของเธอไว้ จากอุบัติเหตุครั้งนั้น ทำให้เธอต้องพิการ ถูกตัดขาทั้ง 2 ข้าง โดยเหลือต้นขาซ้ายยาวเพียงแค่ 3 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ชีวิตยังต้องเดินหน้าต่อไป ในวัย 8 ขวบ เธอเรียนรู้ที่จะหัดเดินด้วยแขนของเธอ โดยการใช้ตั่งเก้าอี้ไม้เตี้ยๆ ค้ำยันต่างเท้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การหัดเดินครั้งนั้นมอบประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวดให้กับเธอ ทำให้ หลี่ จูหง ตัดสินใจที่จะอุทิศตนเป็นหมอเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่น นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ในปีค.ศ. 2000 หลังจากหลี่ จูหง ได้จบการศึกษาแพทย์วิชาชีพ และได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ เธอจึงเริ่มทำงานในคลินิกในหมู่บ้าน หว๋าเตี๋ยน ในปีถัดมา ในช่วงของการเป็นหมอประจำหมู่บ้านในปีที่ 2 คุณหมอหลี่ จูหง ได้พบกับ นายหลิว ชิงหยาง จนทั้งคู่ตกหลุมรักซึ่งกันและกัน จนตกลงปลงใจเข้าพิธีวิวาห์ อยู่กินฉันท์สามีภรรยา ร่วมกัน
คุณหมอหลี่ และ นายหลิว สามีของเธอ
นับแต่นั้นเป็นต้นมานายหลิว ชิงหยาง ได้ลาออกจากงาน เพื่อมาเป็นพ่อบ้าน ทำงานบ้าน คอยดูแล ภรรยา เป็นอย่างดี เขาแบกเธอขึ้นหลังไปทำงานที่คลินิก ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของพวกเขา 500 เมตร ซึ่งหากให้คุณหมอเดินทางด้วยตัวเองจะต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว !
ตลอดเวลา 15 ปี ที่ผ่านมา คุณหมอหลี่ จูหง ได้รักษาคนไข้มากกว่า 1,000 รายจาก 300 หลังคาเรือนใน หมู่บ้านหว๋าเตี๋ยน ซึ่ง 1ใน 5 ของประชากรในหมู่บ้านมีอายุมากกว่า 60 เข้าไปแล้ว ทำให้เธอจำเป็นต้องเดินทางไปรักษาคนไข้สูงอายุตามบ้านถึงแม้สถาพถนนบนเขาจะเป็นอุปสรรคในการเดินทางของเธอก็ตาม แต่เธอก็ยังคงทำหน้าที่ของหมอนี้เรื่อยมา และจะยังคงทำต่อไป นี่สิ คนแบบนี้ถึงจะมีหัวใจของคนเป็นหมออย่างแท้จริง
ถือเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทุกๆคนเลยนะครับ เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นคนดีหรอกครับ ยิ่งในโลกแห่งการแข่งขันแบบนี้ที่น้ำใจหดหายลงไปทุกที ถ้ามีคนแบบคุณหมอเยอะๆคงดีไม่ใช่น้อยเลยล่ะ
source: MThai