การรักษาฟันเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่พอเสียไปแล้วนำกลับมาไม่ได้ แถมค่ารักษาหรือการทำฟันฟลอมยังแพงมากๆ อีกต่างหาก
ถึงอย่างนั้นคนส่วนมากก็ยังเจอปัญหา “ฟันผุ” กันอยู่ดี ซึ่งแม้จะเป็นปัญหาฟันพื้นฐาน ทว่ามันก็สร้างความเสียหายให้กับฟันเราได้
แต่รู้รึเปล่าว่ามีอาหารที่กินง่ายและมีส่วนช่วยในการต่อต้านฟันผุอยู่! อยากรู้แล้วล่ะสิว่าอาหารเหล่านี้มีอะไรบ้าง งั้นเราจะแนะนำให้เพื่อนๆ เอง
1. ไข่
ไม่ว่าเมนูไข่ที่คุณชอบกินจะเป็นไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ตุ๋น ไข่ต้ม หรืออื่นๆ มันก็ล้วนอุดมไปด้วยวิตามินดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยในความแข็งแรงของฟัน มันจึงทำให้เราเกิดฟันผุได้ยากขึ้น
2. มันเทศ
ในมันเทศนั้นมีวิตามินเออยู่มาก สิ่งนี้แหละที่จะช่วยในการปรับค่า pH ในช่องปากของคุณให้เหมาะสม ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในการต่อสู้กับฟันผุ
3. โยเกิร์ต
เจ้าอาหารสารพัดประโยชน์นี้ก็มีส่วนในการต้านฟันผุเช่นกัน เนื่องจากมันมีทั้งแคลเซียมซึ่งเป็นอาหารหลักของฟัน และวิตามินดีที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้ฟัน
แต่โยเกิร์ตที่กินก็ควรจะเป็นรสธรรมชาติด้วยนะ เพราะหากมีการแต่งรสมันอาจจะมีน้ำตาลมากเกินควร ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัวปัญหาหลักที่ทำให้เกิดฟันผุ
4. สตรอเบอร์รี่
คุณคงรู้ดีว่าสตรอเบอร์รี่นั้นมีวิตามินซีสูง ซึ่งเจ้าวิตามินตัวนี้แหละที่จะช่วยรักษาแผลต่างๆ ให้ฟันของคุณ เหมือนเป็นหน่วยรักษานั่นเอง
5. เนย
เนยที่มีไขมันสูงเนี่ยนะช่วยเรื่องฟัน!? ใช่แล้วล่ะ แต่สิ่งที่ช่วยต้านฟันผุในเนยไม่ใช่ไขมัน หากเป็นวิตามินบี 12 ต่างหาก เนื่องจากมันมีส่วนช่วยในการเยียวยาแผลปาก รวมทั้งทำให้เหงือกเราสุขภาพดี
6. อะโวคาโด
ไม่น่าเชื่อว่าอโวคาโดที่มีประโยชน์เยอะอยู่แล้ว ยังช่วยเรื่องฟันผุอีกด้วย เนื่องจากมันมีธาตุโพแทสเซียมสูง ซึ่งโพแทสเซียมเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
7. ถั่วเปลือกแข็ง
ถั่วเปลือกแข็งจำพวกวอลนัท ถั่วลิสง พิสตาชิโอ หรือเม็ดมะม่วงหิมพาน ต่างก็อุดมไปด้วยธาตุฟอสฟอรัส ซึ่งมีพลังในการปกป้องฟันของเราจากกรดต่างๆ
8. ถั่วเนื้ออ่อน
หรือก็คือถั่วจำพวกถั่วแดง ถั่วดำ และถั่วเขียว ถั่วพวกนี้ก็มีแคลเซียมและฟอสเฟทสูงเช่นกัน ซึ่งล้วนเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในการเสริมสร้างฟันของเราให้แข็งแรงทั้งนั้น
รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมหาอาหารเหล่านี้มากินบ่อยๆ ล่ะ แล้วก็อย่าลืมว่าถึงเราจะรักษาความสะอาดของช่องปากดีแค่ไหน หากไม่มีสารอาหารที่จำเป็นมาบำรุงฟัน ฟันของเราก็อาจผุได้อยู่ดี
ที่มา: The Healthy